ตัวละครนักสู้ ของ มอร์ทัลคอมแบท (วิดีโอเกม)

ต่อไปนี้เป็นตัวละครหลัก ที่ปรากฏในวิดีโอเกมมอร์ทัลคอมแบท เรื่องราวของนักสู้แต่ละรายอาจมีความไม่เชื่อมต่อหรือตรงกัน หรืออาจแย้งกัน ทั้งนี้เนื่องจากการดำเนินของเส้นกาลเวลาว่าเหตุการณ์นั้นๆเกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากนิมิตของไรเด็นในมอร์ทัลคอมแบท 9

หมายเหตุ:สำหรับชื่อตัวละครที่มีที่มาจากภาษาจีนและเขียนในระบบเวดและไจลส์ จะมีคำอ่านออกเสียงในระบบพินอิน(pinyin)กำกับไว้ตามหลักการทับศัพท์ภาษาจีน

โกโร
  1. โกโร (Goro) เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งมังกรมี 4 แขน เรียกว่า โชคาน(Shokan) เขาเป็นเจ้าชายของพวกโชคาน และได้เป็นแชมป์มอร์ทัลคอมแบทหลังจากที่เขาเอาชนะบรรพบุรุษของกงหล่าวได้ และกว่า 500 ปีที่โกโรไม่พ่ายแพ้ให้ผู้ใดเลย เขาคอยให้ความช่วยเหลือแก่ชางจง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของจักรพรรดิเชาคาห์น ในการมีชัยเหนืออาณาจักรโลก การต่อสู้ครั้งที่ 10 ของเส้นกาลเวลาเดิม โกโรต้องเผชิญกับหลิวกัง โกโรมีความมั่นใจมากเกินไปเพราะไม่พ่ายแพ้ให้นักสู้คนใดมาแสนนาน ในที่สุดก็พ่ายแพ้ให้กับหลิวกัง ในเส้นกาลเวลาใหม่ โกโรยังคงรับใช้เชาคาห์นและชางจง โดยยังคงพ่ายแพ้ให้กับหลิวกัง กงหล่าว และไซเบอร์ซับซีโร
  2. กงจิน (อังกฤษ: Kung Jin; จีน: 功金; pinyin: Gōng jīn [กง จิน]) เป็นทายาทของกงหล่าว เดิมเคยเป็นหัวขโมยแต่ได้กลับตน เขาถนัดการใช้ธนู นอกจากนี้จากการยืนยันของทีมผู้สร้างเกม กงจินยังเป็นตัวละครแรกของมอร์ทัลคอมแบทที่มีรสนิยมชายรักชาย
  3. กงหล่าว (อังกฤษ: Kung Lao; จีน: 功老; pinyin: Gōng lǎo [กง หล่าว]) เดิมเป็นพระเส้าหลินและสมาชิกสมาคมบัวขาว เป็นเพื่อนสนิทกับหลิวกัง เขาสวมหมวกที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ เดิมบรรพบุรุษของเขาคือ เกรทกงหล่าว ซึ่งเป็นอดีตแชมป์มอร์ทัลคอมแบทเมื่อ 500 ปีก่อน แต่ด้วยกลโกงของชางจง ทำให้บรรพบุรุษรายนี้ของกงหล่าวต้องเสียแชมป์ให้กับโกโร ในเส้นกาลเวลาใหม่ กงหล่าวเอาชนะคินทาโระได้ในการต่อสู้ แต่ถูกสังหารโดยเชาคาห์น ก่อนจะถูกปลุกชีพเป็นภูตคอยรับใช้ควานชี ต่อมา กงหล่าวในภาคมนุษย์ได้ปรากฏตัวอีกครั้งจากการแก้ไขเส้นกาลเวลาของโครนิกา โดยเขายังคงร่วมมือกับไรเด็น ในขณะที่กงหล่าวภาคภูตเลือกรับใช้โครนิกา ควานชี
  4. กีราส (Geras) เป็นชายไม่ทราบเผ่าพันธุ์ มีผิวดำ นัยตาเรืองสีฟ้า เป็นผู้รับใช้ของโครนิกา เขาสามารถสร้างทรายแห่งเวลาได้และควบคุมทรายเพื่อใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้ และยังมีความสามารถในการหยุดและย้อนเวลา กีราสไม่อาจตายจริงได้เนื่องจากเขาสามารถย้อนเวลาไม่ให้ตัวเองตายได้และทุกครั้งที่ตายเขาจะยิ่งแข็งแกร่งกว่าเดิม กีราสถูกไรเด็นใช้โซ่ล่ามและทุ่มสมอดิ่งลงไปสู่ทะเลแห่งเลือด ทะเลซึ่งไม่มีจุดสิ้นสุดของก้นทะเล
  5. ควานชี (อังกฤษ: Quan Chi; จีน: 拳癡; pinyin: Quán chī [เฉฺวียน ชือ]) เป็นพ่อมดผู้ที่คอยให้ความช่วยเหลืออดีตเทพอาวุโสชินน็อกซึ่งถูกเนรเทศไปสู่เนเธอร์เรล์มโดยไรเด็น ควานชีต้องการนำเครื่องรางกลับคืนให้กับชินน็อกหลังจากที่ไรเด็นได้นำเครื่องรางของชินน็อกไปซ่อนเก็บไว้ เขาทราบตำแหน่งของเครื่องรางโดยความช่วยเหลือของชางจง แต่ควานชีไม่สามารถไปขโมยเครื่องรางนั้นกลับมาด้วยตนเองได้เนื่องจากมีผู้คุ้มกันทั้งสี่ที่คอยปกป้องอยู่ ควานชีจึงได้สร้างสัญญากับนักสังหารสำนักหลินเกว่ย โดยรับปากจะช่วยขจัดคู่แข่งของสำนักหลินเกว่ย นั่นคือทำลายสำนักชิไรริวเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน หลังจากซับซีโรได้ขโมยเครื่องรางคืนมาแล้ว ควานชีกลับมอบเครื่องรางของปลอมให้กับชินน็อก หลังจากนั้นไม่นาน ไรเด็นได้สั่งให้ซับซีโรผู้น้องไปนำเครื่องรางกลับคืนมา ซับซีโรได้เผชิญหน้ากับควานชีและเอาชนะได้ด้วยความช่วยเหลือของซารีนา แต่ซับซีโรก็ได้เครื่องรางปลอมคืนมาเช่นกัน ไม่กี่ปีต่อมา ควานชีคิดว่าเขาต้องการนักสู้ที่ทรงพลัง เขาจึงได้ปลุกชีพสกอร์เปียนและหลอกเขาว่าซับซีโรเป็นผู้สังหารครอบครัวและเผ่าของสกอร์เปียน เมื่อรู้ความจริงภายหลัง สกอร์เปียนได้โกรธแค้นและจับควานชีลงไปยังชั้นลึกของเนเธอร์เรล์ม ควานชีได้หลอกให้ดราห์มินและโมล็อกทำการโจมตีสกอร์เปียน เพื่อที่เขาจะหลบหนีออกจากเนเธอร์เรล์ม ช่องประตูอาณาจักรได้นำเขาเพียงลำพังไปยังสุสานมัมมี่ของราชามังกรผู้ถูกลืม เขาได้นึกถึงผู้ที่จะทำให้เป้าหมายของเขาบรรลุผล เขาจึงไปยังปราสาทของชางจง และมีความหวังในการยึดครองทุกอาณาจักร เขาทั้งคู่จึงร่วมกันเป็นพันธมิตรเดนตาย แต่ก่อนที่แผนนี้จะสำเร็จได้เขาวางแผนที่จะกำจัดปรปักษ์ของพวกเขาก่อน นั่นคือ เชาคาห์น และหลิวกัง ในเส้นกาลเวลาใหม่ ควานชีได้วางแผนร่วมกับชินน็อกในการยึดครองโลก แต่ต่อมาเขาถูกสังหารโดยฮานโซ ฮาซาชิ(สกอร์เปียน)
  6. คอลเลกเตอร์ (Kollector) เป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่า นัคนาดัน ซึ่งมี 6 แขน เผ่าพันธุ์นี้ตกเป็นทาสของคาห์นในการก่อสร้างโคลีเซียม คอลเลกเตอร์เกิดมายากจนแต่ไต่เต้าจนได้เป็นผู้เก็บส่วยให้กับคาห์น เขามักจะสนใจในความมั่งคั่งและฐานะของตนเองเท่านั้น
  7. คาบาล (Kabal) ผู้ที่ใส่เครื่องช่วยหายใจแทนปอด ผิวหนังมีลักษณะขรุขระเพราะถูกไฟลวก เดิมเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มมังกรดำที่รอดจากการโจมตีของเชาคาห์น เขาได้ละทิ้งความหลังกับมังกรดำมาเป็นนักสู้ที่ดี ต่อมาคาบาลได้รับบาดแผลฉกรรจ์จากการสู้กับมาวาโดผู้นำแห่งมังกรแดงและขโมยดาบตะขอของเขาไป ฮาวิกได้ไปพบคาบาลขณะเจียรตายและช่วยเหลือเขา และสั่งให้เขาฟื้นฟูมังกรดำขึ้นใหม่ให้เป็นหน่วยแห่งความยุ่งเหยิงและเสื่อมทราม เขาได้สู้กับมาวาโดอีกครั้งจนชนะและได้ดาบตะขอคืนมา คาบาลยังได้ตามหาคิรากับโคบรา ซึ่งต่อมาทั้ง 3 คนได้ให้ความร่วมมือกับฮาวิก ในเส้นกาลเวลาใหม่ คาบาลได้ร่วมต่อสู้ในฝ่ายธรรมะโดยเป็นคู่ซี้กับสไตรเกอร์ แต่เขาถูกสังหารโดยซินเดล แล้วถูกปลุกชีพเป็นภูตที่คอยรับใช้ควานชี ต่อมา คาบาลในภาคมนุษย์ได้ปรากฏตัวอีกครั้งจากการแก้ไขเส้นกาลเวลาของโครนิกา เขาได้ร่วมกับกลุ่มมังกรดำในการช่วยเหลือภารกิจของโครนิกา
  8. คามีเลียน (Chameleon) เป็นนินจาชายที่ลำตัวมีลักษณะโปร่งเป็นบางส่วน เป็นหนึ่งในนักสู้ที่ยอดเยี่ยมของคาห์น เขาปรากฏตัวและเฝ้าดูเหตุการณ์ในวันที่หลิวกังได้ชัยชนะครั้งแรกในการชิงชัย แต่ไม่มีข้อมูลสนับสนุนว่าเขามีเชื้อสายแรปเตอร์เหมือนกับเรปไทล์และฆามีเลียนหรือไม่คิทานา
  9. ฆามีเลียน (Khameleon) เธอมักแต่งกายด้วยชุดสีเทา เป็นหญิงคนสุดท้ายของซอเรียน พวกแรปเตอร์เชื้อสายเดียวกับเรปไทล์ กำเนิดบนโลกแต่ถูกขับไล่ออกไปในมหาสงคราม พวกเขาพบที่อาศัยใหม่ชื่อซาเทอร์รา แต่ไม่ช้าเชาคาห์นก็หาเจอเช่นกัน เชาคาห์นได้ขับไล่เหล่าแรปเตอร์จนใกล้สูญพันธุ์และรวมอาณาจักรเข้ากับนอกพิภพ ฆามีเลียนบอกเรปไทล์ว่า เชาคาห์นต้องรับผิดชอบต่อการสูญพันธุ์ของพวกเขา แต่เรปไทล์ตกอยู่ภายใต้อำนาจของเชาคาห์นและกลายเป็นปรปักษ์กับเธอ เธอได้ออกไปจากอาณาจักรและมีความแค้นกับเขา (การสะกดชื่อตัวละคร Khameleon ด้วยตัวอักษร ฆ เพื่อให้เกิดความแตกต่างในการเขียนชื่อกับตัวละคร Chameleon เท่านั้น) จอห์นนี เคจ
  10. คิทานา (Kitana) เธอมักแต่งกายด้วยชุดสีน้ำเงิน เป็นเจ้าหญิงแห่งอีเดเนีย เป็นลูกสาวของราชินีซินเดลและกษัตริย์เจอร์รอด แต่ถูกนำไปเป็นลูกบุญธรรมของเชาคาห์นจักรพรรดิแห่งนอกพิภพเมื่อตอนเขาบุกยึดอาณาจักรอีเดเนีย เธอได้รับใช้เชาคาห์นโดยเป็นมือสังหาร อาวุธที่เธอใช้คือพัดใบมีดคู่ แต่ต่อมาเธอได้กลายเป็นฝ่ายธรรมะเมื่อเธอได้รู้ถึงความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับอดีตและครอบครัวของเธอ และเธอยังมีความโรแมนติกกับหลิวกัง เธอมีเพื่อนสนิทคือ เจด เธอมีน้องสาวที่ชั่วร้ายคือ มิลีนา ในเส้นกาลเวลาใหม่ คิทานาถูกสังหารโดยซินเดลซึ่งเป็นแม่ของตนเอง และถูกปลุกชีพเป็นภูตที่คอยรับใช้ควานชีและชินน็อก ต่อมาคิทานาในภาคมัตตัย(ยังไม่ตาย)ได้ปรากฏตัวอีกครั้งจากการแก้ไขเส้นกาลเวลาของโครนิกา คิทานาได้สังหารเชาคาห์น หลังจากนั้นโคทัลได้มอบตำแหน่งผู้ปกครองนอกพิภพรายใหม่ให้กับคิทานา ส่วนคิทานาในภาคภูตได้เลือกรับใช้โครนิกา
  11. คินทาโระ (อังกฤษ: Kintaro; ญี่ปุ่น:キンタロー) เป็นโชคานสี่แขนลายเสือสามารถพ่นไฟได้ เขาได้เข้าร่วมทัพของเชาคาห์นเพื่อยึดครองโลก เขาท้าดวลกับหลิวกังในการชิงชัยครั้งที่ 2 แต่ก็พ่ายแพ้ ในเส้นกาลเวลาใหม่ เขาพ่ายแพ้ในการต่อสู้ให้กับกงหล่าว
  12. คิรา (Kira) เธอได้ปลอมตัวเป็นชายและขายอาวุธให้กับองค์กรก่อการร้ายในภูเขาของอัฟกานิสถาน ในระหว่างการติดต่อซื้อขายในถ้ำ เธอได้เปิดเผยเพศที่แท้จริงและจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อออกมาและเธอก็ชนะ เธอได้พบคาบาลผู้ที่รอผู้ชนะอยู่ด้านนอก เขาตัดสินใจสร้างกลุ่มมังกรดำขึ้นใหม่ ด้วยการต่อสู้ของคิราทำให้เขานึกถึงองค์กรมังกรแดง ก่อนที่มังกรดำจะได้แยกตัวออกมา แต่มังกรดำยังไม่เคยมีสิ่งนี้ เขาจึงให้คิราเป็นสมาชิกคนแรก คิราอุทิศตนให้องค์กรใหม่ของเธอและไปยังนิวยอร์กเพื่อพบโคบรา
  13. เคโน (Kano) เป็นทหารรับจ้างและผู้นำขององค์กรอาชญากรรมระหว่างประเทศที่รู้จักกันในนามกลุ่มมังกรดำ เป็นคนก้าวร้าว ฉลาดแกมโกง ด้วยความอำมหิตเขาได้ก้าวเป็นนายพลของกองทัพนอกพิภพ ภารกิจของเขาทำให้เขาต้องเป็นคนที่จองล้างจองผลาญกับซอนยา เบลด และแจ็กซ์ ด้วยภารกิจที่ได้รับจากมังกรดำ เคโนมุ่งหน้าไปนอกพิภพ แล้วเขาได้ค้นพบดวงตาแห่งชิเทียนที่ทรงพลัง ในเส้นกาลเวลาใหม่ เคโนได้รับใช้เชาคาห์นกับชางจง ต่อมาหลังจากเชาคาห์นตาย เขาถูกจ้างโดยมิลีนาให้ขโมยเครื่องราง และให้ลอบสังหารโคทัล คาห์น แต่สังหารไม่สำเร็จ ต่อมา เคโนได้ไปรับใช้โครนิกา ก่อนที่จะถูกซอนยาสังหารในเวลาต่อมา
  14. เคนชิ (อังกฤษ: Kenshi; ญี่ปุ่น: ケンシ) เป็นชายตาบอดที่ถนัดการใช้ดาบและมีพลังจิต เขามีความเกลียดชังชางจงผู้ที่ทำให้เขาตาบอด เขาเป็นพันธมิตรกับซอนยา, แจ็กซ์, ซับซีโร และเออร์แม็ก ต่อมาพันธมิตรเดนตายได้ส่งมาวาโดไปสังหารเคนชิ แต่แล้วซับซีโรก็ได้ช่วยรักษาเคนชิจากความตาย เคนชิจึงต้องการล้างแค้นกลุ่มมังกรแดงของมาวาโด ในเส้นกาลเวลาใหม่ เคนชิได้นำลูกชายไปฝากเป็นศิษย์ของฮานโซ ฮาซาชิ(สกอร์เปียน) และร่วมต่อสู้ปกป้องอาณาจักรโลก
  15. แคสซี เคจ (Cassie Cage) หรือ คาสซานดรา เคจ (Cassandra Cage) เป็นลูกสาวของจอห์นนี เคจ กับ ซอนยา เบลด และเป็นผู้นำของกลุ่มย่อยของหน่วยรบพิเศษ โดยเธอเป็นผู้ปราบชินน็อกได้สำเร็จในการต่อสู้เพื่อปกป้องอาณาจักรโลกในเส้นกาลเวลาใหม่ โคทัล คาห์น
  16. โคทัล คาห์น (Kotal Kahn) ครั้งหนึ่งเขามาที่อาณาจักรโลกและช่วยเหลือชาวมายันในการปราบการรุกรานจากชาวสเปน ชาวมายันได้เรียกเขาว่าเทพสงคราม เขาเป็นผู้ครองนอกพิภพรายใหม่ อาณาจักรเดิมของโคทัล คาห์น คือ ออชเทกก์ แต่ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับนอกพิภพ หลังจากการตายของเชาคาห์น มิลีนาได้ขึ้นปกครองนอกพิภพเป็นจักรพรรดินี ด้วยการปกครองที่คอยกดขี่และย่ำแย่ของเธอทำให้โคทัลชิงตำแหน่งจากเธอ และบังคับให้เธอต้องหลบซ่อนตัวไป โคทัลได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งนอกพิภพ และได้ร่วมมือกับเดวอราห์, เออร์แม็ก, เรปไทล์, และเออร์รอน แบล็ค ในการเดินทางไปปราบมิลีนาที่กำลังร่วมมือกับพวกทาร์คาทันในการก่อกบฏ ต่อมา ในภาค 11 โคทัลสู้เชาคาห์นไม่ได้และเขาได้รับความช่วยเหลือจากคิทานา เขาจึงมอบตำแหน่งคาห์นให้กับคิทานาในการปกครองนอกพิภพ
  17. โคบรา (Kobra) เป็นนักสู้หนุ่มจากนิวยอร์ก เขาเดินทางเสาะหาเพื่อที่จะใช้ศิลปะการต่อสู้ของจริง ความกระสันและตื่นเต้นนี้ทำให้เขาเริ่มสังหารคู่ต่อสู้ สุดท้ายเขาถูกจับ เมื่อคาบาลและคิรารู้ถึงเรื่องราวของเขาจึงได้นำเขามาร่วมก่อตั้งมังกรดำขึ้นมาใหม่ หลังจากได้สังหารเจ้าหน้าที่และหลบหนีออกมา คาบาลได้พาคิราและโคบราไปยังนอกพิภพ ที่ซึ่งพวกเขาทำงานให้ฮาวิกนักพรตแห่งเคออสเรล์ม
  18. โครนิกา (Kronika) เธอคือผู้พิทักษ์เวลาและสถาปนิกแห่งลิขิตของจักรวาล เธอเป็นมารดาของชินน็อกและเซตริออน โครนิกาเห็นว่าการกระทำของไรเด็นที่ใช้ความรุนแรงในการปกป้องภัยคุกคามต่ออาณาจักรโลกนั้น ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างสิ่งดีและร้าย โครนิกามีความสามารถในการจัดการกาลอวกาศ เธอจึงต้องการจะสร้างเส้นกาลเวลาใหม่อีกครั้งด้วยการสร้างศักราชใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อล้มเลิกการเปลี่ยนแปลงที่ไรเด็นได้กระทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ โครนิกานับเป็นตัวร้ายหญิงตัวแรกที่เป็นตัวเอกของเกมมอร์ทัลคอมแบท โดยเชื่อว่าการที่เธอให้กำเนิดบุตรที่เป็นเทพได้ก็เนื่องจากแท้จริงแล้วเธอคือไททัน
  19. ไค (Kai) อดีตสมาชิกสมาคมบัวขาว มีเชื้อสายแอฟริกันอเมริกัน เขาได้พบหลิวกังซึ่งเดินทางไปยังสหรัฐและฝึกฝนนักสู้เส้าหลินรุ่นใหม่ หลิวกังและไคได้ร่วมทัพกับนักสู้จากโลกเพื่อช่วยไรเด็นต่อต้านชินน็อกในอีเดเนีย
  20. จอห์นนี เคจ (Johnny Cage) ชื่อเดิมคือ จอห์น คาร์ลตัน เขามีเชื้อสายของพวกที่คอยสร้างนักสู้ให้กับเหล่าเทพ เคจเป็นนักแสดงภาพยนตร์ด้านศิลปะการต่อสู้ เคจได้เข้าร่วมชิงชัยเพื่อพิสูจน์ว่า เขาไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษช่วยในการแสดงภาพยนตร์ของเขา เคจยังได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งอื่นๆ หลังจากร่วมเป็นพันธมิตรกับนักสู้ที่ต้องการปกป้องโลกซึ่งนำโดยเทพสายฟ้าไรเด็น
  21. จาเร็ก (Jarek) เป็นศิษย์ของเคโนแห่งกลุ่มมังกรดำ เขาเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่มและถูกตามล่าโดยซอนยา ในข้อหาเป็นภัยต่อมวลมนุษย์ เมื่อถูกจับ จาเร็กตัดสินใจร่วมต่อสู้เพื่อกำจัดเทพชินน็อก หลังปราบชินน็อกสำเร็จ ซอนยาชวนจาเร็กให้ไปเป็นทหารพิเศษกับเธอ แต่เขาปฏิเสธและพยายามสังหารซอนยา แจ็กซ์ได้เข้าขัดขวางและโยนเขาลงจากหน้าผา จาเร็กยังคงรอดมาได้โดยใช้อาวุธของเขาปีนขึ้นมา เขาบาดเจ็บและคิดว่าการตายของเขาจะทำให้เขามีพลังมากขึ้นในการแก้แค้น เมื่อควานชีได้เห็นจาเร็กและประทับใจในฝีมือ จึงชวนให้จาเร็กรวมกองทัพแห่งความมืดเพื่อที่จะชำระแค้น
  22. เจด (Jade) เธอมักแต่งกายด้วยชุดสีเขียว เป็นมือสังหารของเชาคาห์น และเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าหญิงคิทานา(ลูกเลี้ยงของเชาคาห์น) เธอถูกเกณฑ์ไปเป็นทาสโดยเชาคาห์น แต่ก็เป็นมิตรกับนักสู้จากโลก ในเส้นกาลเวลาใหม่ หลังจากที่เธอหันมาร่วมมือกับนักสู้จากโลกต่อต้านเชาคาห์น เธอได้ถูกสังหารโดยซินเดล และถูกปลุกชีพเป็นภูตรับใช้ควานชี ต่อมาในภาค 11 เจดในร่างมัตตัย(ยังไม่ตาย)ได้พบกับโคทัลคนรักและร่วมกับไรเด็นในการปราบโครนิกา ส่วนเจดในภาคภูตได้เลือกรับใช้โครนิกาแจ็กซ์
  23. แจ็กซ์ (Jax) หรือ แจ็กสัน บริกส์ (Jackson Briggs) เป็นทหารหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ แจ็กซ์ได้ฝังแขนชีววัตถุ เขาเป็นคนช่วยเหลือคู่หูของเขาคือซอนยาซึ่งถูกจับตัวไปยังนอกพิภพ และเขายังได้นำเคโนไปกักขังแม้ต่อมาเคโนจะหลบหนีออกไปได้ ในเส้นกาลเวลาใหม่ แจ็กซ์ถูกสังหารโดยซินเดล และถูกปลุกชีพเป็นภูตโดยควานชี ต่อมาแจ็กซ์ถูกคืนชีพเป็นมนุษย์อีกครั้งจากการถอนมนตร์โดยไรเด็น
  24. แจ็กกี (Jacqui) หรือ แจ็กเกลิน บริกส์ (Jacqueline Briggs) เป็นลูกสาวของแจ็กสัน บริกส์และวีรา บริกส์ (ภรรยาของเขาที่ตายไปแล้ว) เธอเป็นเพื่อนสนิทกับแคสซี แจ็กกีถนัดการต่อสู้แบบคิกบ็อกซิ่ง เธอเข้าร่วมการแข่งขันยุวชนโอลิมปิกก่อนจะอาสาตัวเข้าฝึกในค่าย นอกจากนี้เธอยังรู้สึกชอบพอกับทาเคดะอีกด้วย ชินน็อก
  25. ชางจง หรือ แชงซุง (อังกฤษ: Shang Tsung; จีน: 尚宗, pinyin: shàng zōng [ช่าง จง]) เขาเป็นพ่อมดผู้ยะโสและทรงพลัง เขาสามารถดูดกลืนวิญญาณผู้ที่เขาสังหารได้เพื่อที่จะคงพลังและความเป็นหนุ่มให้ตนเอง ชางจงถูกสาปโดยเทพของตนให้ขโมยวิญญาณ มิฉะนั้นเขาจะแก่อย่างรวดเร็วและตายก่อนวัยอันควร อย่างไรก็ตามการขโมยวิญญาณของเหยื่อทำให้เขาได้เรียนรู้และมีทักษะการต่อสู้ของเหยื่อเช่นกัน เขาเข้าร่วมมอร์ทัลคอมแบทและเอาชนะเป็นแชมป์อย่างยิ่งใหญ่จนกลายเป็นผู้ร่วมดำเนินการชิงชัย ด้วยตัวเลขการชนะ 9 ครั้งจึงมีแนวโน้มที่นอกพิภพของเชาคาห์นจะได้ยึดครองโลก แต่ทั้งตัวเขา สมุน และแชมป์อย่างโกโรก็พ่ายแก้ให้กับหลิวกัง ในการชิงชัยครั้งที่ 10 เชาคาห์นได้คืนความเป็นหนุ่มแก่ชางจง และให้เขาพยายามล่อหลอกให้นักสู้จากโลกออกไปยังนอกพิภพเพื่อให้จักรพรรดิเชาคาห์นมีความได้เปรียบ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ ในเส้นกาลเวลาใหม่ ชางจงถูกดูดวิญญาณโดยเชาคาห์นเนื่องจากความไม่พอใจที่ชางจงทำงานไม่ประสบความสำเร็จ
  26. ชินน็อก (Shinnok) เป็นอดีตเทพอาวุโสซึ่งต้องการยึดครองโลก เขาได้สร้างเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังมหาศาลในการทำสงครามกับเหล่าเพื่อนเทพของเขา(เชื่อกันว่าเครื่องรางนี้มีพลังเหนือกว่าคามิโดกุทั้งหก เนื่องจากมันเป็นแหล่งเก็บไว้ซึ่งแก่นแห่งจักรวาล) ชินน็อกขัดแย้งกับเทพไรเด็นผู้ที่คอยเคียงข้างเทพอาวุโสอื่น ไรเด็นปราบชินน็อกและยึดเครื่องรางของเขา และกักขังเขาไว้ที่เนเธอร์เรล์ม เขาได้พบกับพ่อมดควานชี ผู้ที่อาสาจะช่วย ทั้งนี้เพื่อควานชีจะได้กลายเป็นผู้ครองเนเธอร์เรล์ม ระหว่างนี้ชินน็อกได้สร้างกองทัพปีศาจที่เรียกว่าผองพี่น้องแห่งเงาซึ่งยอมเสียสละเพื่อเขา ในช่วงที่เชาคาห์นได้พ่ายแพ้นักสู้จากโลก ชินน็อกหนีออกจากเนเธอร์เรล์ม บุกไปยังสวรรค์และสังหารเหล่าเทพ ไรเด็นและเหล่านักสู้เตรียมต่อกรกับเขา แต่ชินน็อกพ่ายแพ้ให้กับหลิวกัง ต่อมาชินน็อกได้เผชิญหน้ากับเทเว็นในเนเธอร์เรล์ม ที่ซึ่งเขาเป็นมิตรกับเทเว็นและครอบครัวของเขามาหลายปี เทเว็นได้ช่วยชีวิตชินน็อกจากหลี่เหมย และช่วยเขาคืนการควบคุมกองทัพปีศาจที่พยายามล้มล้างเขา ต่อมาพบว่าปีศาจนั้นเป็นภาพลวงเพื่อทดสอบเทเว็น ซึ่งเดกอนได้ผ่านมาแล้วก่อนหน้านี้ ในเหตุการณ์อาร์มาเกดดอน ชินน็อกได้ผูกมิตรกับนักสู้อื่นรวมทั้งไรเด็นเพียงเพื่อแผนการยึดครองอาณาจักร ไรเด็นกระนั้นก็ต้องการเพื่อค้นหาแผนการณ์ของชินน็อกและโอนากะเช่นกัน ชินน็อกเสนอการปลดปล่อยโอนากะจากเนเธอร์เรล์ม เพื่อแลกเปลี่ยนกับความเป็นผู้รับใช้ เขาได้ส่งร่างปลอมของเขาไปเป็นเพื่อนเดกอนเพื่อไปยังปิรามิด เขาเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่รายที่รอดในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ในเส้นกาลเวลาใหม่ ชินน็อกถูกไรเด็นกักตัวไว้ในเครื่องรางของเขาเอง และถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้งโดยมนตร์ของควานชี แต่สุดท้ายชินน็อกถูกปราบโดยแคสซีและถูกไรเด็นตัดศีรษะ
  27. ชีวา (Sheeva) เธอมีสี่แขน เธอเป็นโชคานเช่นเดียวกับโกโรและคินทาโระ เธอรูปร่างสูง มีกล้ามเนื้อ ตาสีแดง เมื่อเชาคาห์นได้ปลุกชีพราชินีซินเดลบนโลก เขาได้มอบหน้าที่ให้เธอเป็นผู้คอยปกป้องดูแลซินเดล ชีวารู้สึกแคลงใจเมื่อเชาคาห์นได้มอบหน้าที่ผู้นำทัพในการต่อสู้ให้กับโมทาโรเชื้อสายเซนทอร์ เธอคิดว่านี่เป็นการดูถูก นับตั้งแต่พวกโชคานและเซนทอร์เป็นฝ่ายอริต่อกันมาช้านาน ต่อมาเมื่อกลับสู่นอกพิภพ เธอพบว่าที่จริงเชาคาห์นได้หลอกลวงเผ่าพันธุ์ของเธอ นับแต่นั้นเธอและเผ่าพันธุ์จึงต่อสู้กับนักสู้ของเชาคาห์น ในเส้นกาลเวลาใหม่ เธอยังคงรับใช้เชาคาห์น ต่อมาในภาค 11 เธอได้ตกลงร่วมกับคิทานาในการร่วมทัพเพื่อต่อกรกับเชาคาห์น
  28. ชูจิงโกะ (อังกฤษ:Shujinko; ญี่ปุ่น:シュジンコウ) เดิมเป็นคนวัยหนุ่มและถูกฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โดยปรมาจารย์โบไรโช ชูจิงโกะได้พบกับดามาชิผู้ที่อ้างว่าเป็นทูตของเทพอาวุโสและบอกให้ชูจิงโกะค้นหาเครื่องเทวาทั้ง 6 จากแต่ละอาณาจักร และเพื่อให้ชูจิงโกะทำการนี้ได้ ดามาชิจึงให้ความสามารถแก่เขาในการซึมซับรูปแบบการต่อสู้และการโจมตีของนักสู้ผู้ที่เขาต่อสู้ด้วย ภารกิจของชูจิงโกะใช้เวลากว่า 40 ปีจึงสำเร็จ หลังจากนั้น ดามาชิได้เปิดเผยตัวเองว่าแท้จริงแล้วเขาคือราชามังกรโอนากะ ชูจิงโกะเมื่อทราบว่าถูกหลอก เขาจึงหาทางกำจัดโอนากะอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าเขาเป็นนักสู้เพียงผู้เดียวที่จะทำการนี้ได้ หลังจากนั้นเขาก็เอาชนะโอนากะได้และกลายเป็นที่รู้จักกันในนามวีรบุรุษแห่งนอกพิภพ เชาคาห์น
  29. เชา คาห์น (Shao Kahn) เป็นจักรพรรดิแห่งนอกพิภพ มีพลังแข็งแกร่งดุจเทพ โหดร้ายและมีมนตร์ดำ เขายังมีลักษณะคล้ายชางจงซึ่งเป็นลูกมือ ในการดูดกลืนวิญญาณของผู้อื่น เขาเป็นสามีใหม่ของราชินีซินเดลและเป็นพ่อเลี้ยงของคิทานาและมิลีนา เดิมเชาคาห์นเป็นที่ปรึกษาของโอนากะราชาผู้ปกครองนอกพิภพรายก่อน โอนากะมีพลังมหาศาลและต้องการเป็นอมตะแต่แผนการณ์ของโอนากะต้องจบลงเมื่อโอนากะได้ถูกวางยาโดยเชาคาห์น ต่อมาเชาคาห์นได้พยายามยึดครองอาณาจักรอื่นรวมทั้งที่แห่งใหม่เพื่อรวมเข้ากับนอกพิภพ เขาเริ่มที่เมืองของพวกโชคาน เขาสัญญาว่าหากโกโรเจ้าชายแห่งโชคานทำการลงชิงชัยมอร์ทัลคอมแบทในนามของนอกพิภพ เขาจะไม่ทำลายเมืองของพวกโชคาน เชาคาห์นเป็นผู้สังหารสามีของราชินีซินเดลคือกษัตริย์เจอร์รอดแห่งอีเดเนียและรับลูกสาวคือคิทานาไปเป็นลูก โดยที่คิทานาไม่ทราบความจริงว่าเขาไม่ใช่พ่อที่แท้จริง ในเส้นกาลเวลาใหม่ เชาคาห์น ถูกสังหารโดยเหล่าเทพอาวุโสเนื่องจากเขาละเมิดกฎของมอร์ทัลคอมแบท ซึ่งทำการรวมอาณาจักรโดยปราศจากชัยชนะในมอร์ทัลคอมแบท ต่อมาในภาค 11 เชาคาห์นปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งจากการแก้ไขเส้นกาลเวลาของโครนิกาที่ต้องการให้เขาช่วยปกป้องภารกิจของเธอ แต่เขาก็ถูกสังหารโดยคิทานาร่างมัตตัย ซอนยา เบลด
  30. ซอนยา เบลด (Sonya Blade) เป็นทหารสาวหน่วยรบพิเศษกองทัพสหรัฐ เป้าหมายของเธอคือการติดตามและจับตัวเคโน และกำจัดการรวมตัวขององค์กรอาชญากรรมมังกรดำซึ่งมีเคโนเป็นหัวหน้า ซอนยาและทีมได้ติดตามเคโนไปถึงเกาะที่ชางจงจัดการชิงชัยและเธอถูกซุ่มโจมตีโดยทหารของชางจง เพื่อให้ทีมของเธอปลอดภัยเธอจึงตกลงเข้าร่วมการต่อสู้ในการชิงชัย แต่ชางจงก็ไม่ได้จริงจังกับสัญญานี้และต่อมาได้สังหารผู้ร่วมทีมของเธอ ในเส้นกาลเวลาใหม่ ซอนยาร่วมต่อสู้ปกป้องโลก ต่อมาเธอเป็นผู้นำหน่วยรบพิเศษในการต่อต้านกองทัพเนเธอร์เรล์มของควานชี ต่อมาในภาค 11 นายพลสาวซอนยาได้เสียชีวิตระหว่างทำภารกิจในเนเธอร์เรล์ม แต่แล้วซอนยาในวัยสาวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเนื่องจากการแก้ไขเส้นกาลเวลาของโครนิกาซับซีโร
  31. ซับซีโร (Sub-Zero) เขามักแต่งกายด้วยชุดแถบสีน้ำเงิน พวกเขามีเชื้อสายของผู้ที่สามารถสร้างและควบคุมพลังของน้ำแข็งได้ คือพวกครัยโอแมนเซอร์ เผ่าพันธุ์ซึ่งเดิมกำเนิดที่นอกพิภพ เดิมทีชื่อซับซีโรเป็นของผู้พี่ที่ชื่อ ปี้หาน (อังกฤษ: Bi-Han; จีน: 避寒; pinyin: Bì hán [ปี้ หาน]) แต่ได้ตายจากเหตุการณ์ในมอร์ทัลคอมแบทครั้งที่ 1 และในเวลาต่อมาถูกแทนที่ตำแหน่งนี้ด้วยน้องชายที่ชื่อไกว้เหลียง (อังกฤษ: Kuai Liang; จีน: 快涼 pinyin: Kuài liáng [ไกว้ เหลียง]) แต่ยังคงใช้ชื่อซับซีโรเหมือนกัน และใช้ชื่อรหัสว่าทุนดรา ซับซีโรผู้พี่ถูกสั่งโดยหลินเกว่ยให้ร่วมชิงชัยการต่อสู้ ทั้งนี้เพื่อลอบสังหารชางจงและขโมยสมบัติออกมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จและเขาถูกสังหารโดยสกอร์เปียนผู้ที่ตามหาเขาเพื่อล้างแค้นผู้ที่เคยสังหารตัวสกอร์เปียนในอดีต หลังการตายของผู้พี่ ผู้น้องจึงรับหน้าที่ทำภารกิจแทนพี่ชาย ต่อมาซับซีโรผู้น้องได้หนีออกจากหลินเกว่ยที่ซึ่งต้องการเปลี่ยนเหล่านักสู้ให้เป็นหุ่นไซบอร์ก พวกเขาจึงตั้งโปรแกรมหุ่นสังหารออกตามล่าซับซีโร ซึ่งในตอนนี้เขาได้รับวิสัยทัศน์จากไรเด็นและตกลงเข้าร่วมขับไล่ภัยคุกคาม ในเส้นกาลเวลาใหม่ ซับซีโร ได้ถูกผ่าตัดแปลงเป็นหุ่นไซบอร์กสีน้เงินและต่อมาถูกสังหารโดยซินเดล ก่อนจะถูกปลุกชีพเป็นภูตที่คอยรับใช้ควานชี ต่อมาเขาถูกถอนมนตร์กลับเป็นมนุษย์อีกครั้งโดยไรเด็น และเขาได้คืนดีกับสกอร์เปียนหลังจากสกอร์เปียนทราบความจริงทั้งหมด
  32. ซารีนา (Sareena) เป็น 1 ใน 3 สาวแห่งมือสังหารของควานชี และถูกสั่งให้ไปสังหารซับซีโรแต่ไม่สำเร็จ ซับซีโรได้สังหารเคียและจาทาคา แต่กลับไว้ชีวิตซารีนา เธอจึงได้ช่วยเขาในการเอาชนะควานชี หลังจากที่เธอแสดงความต้องการออกจากเนเธอร์เรล์ม เธอถูกยิงด้านหลังโดยชินน็อกและทำลายความเป็นมนุษย์ของเธอ ดวงใจของเธอถูกเนรเทศเพื่อเป็นการลงโทษที่เธอทรยศ ต่อมาหลังจากหลายปีที่เธอถูกทรมาน เธอปรากฏในร่างมนุษย์และได้พบกับซับซีโรผู้น้อง เธอรู้สึกว่าซับซีโรติดหนี้บุญคุณที่เธอได้เคยช่วยเหลือซับซีโรผู้พี่ ซับซีโรผู้น้องจึงยอมให้ที่หลบภัยแก่เธอที่หลินเกว่ย ในเหตุการณ์อาร์มาเกดดอน ซารีนาติดตามซับซีโรไปยังเนเธอร์เรล์มและช่วยเขาจากการถูกสังหารโดยนูบไซบอตและสโมก หลังการต่อสู้ซารีนาสูญเสียร่างมนุษย์และกลายเป็นร่างปีศาจที่แท้จริง ต่อมาเธอถูกควานชีลอบทำร้ายและคืนร่างมนุษย์ให้เธอและยังบังคับให้เธอเข้าร่วมฝ่ายเขาแม้เธอจะต่อต้านก็ตาม ต่อมาควานชีได้ส่งให้เธอไปสังหารเทเว็นแต่เธอพ่ายแพ้ ในเส้นกาลเวลาใหม่ ซารีนาได้ร่วมกับเคนชิและแจ็กซ์ ในการซุ่มโจมตีกลุ่มภูตเนเธอร์เรล์มของควานชี
  33. ซินเดล (Sindel) หรือราชินีซินเดล เธอมักแต่งกายด้วยชุดสีม่วง เดิมเป็นผู้ปกครองอาณาจักรอีเดเนียซึ่งเป็นมิตรกับอาณาจักรโลก เธอมีลูกสาวชื่อเจ้าหญิงคิทานา ซินเดลมีพลังในการลอยตัวและสร้างคลื่นโซนิค หมื่นปีก่อนเชาคาห์นได้บุกรุกรานอาณาจักรของเธอ เธอถูกบังคับให้ดูประชาชนของเธอตกเป็นทาส สามีของเธอ(กษัตริย์เจอร์รอด)ได้ถูกสังหารและลูกสาวของเธอถูกนำไปเลี้ยงเป็นลูกโดยเชาคาห์น และตั้งชื่อใหม่เป็นคิทานา ซินเดลได้เสียสละฆ่าตัวตายเพื่อสร้างมนตร์ป้องกันไม่ให้เชาคาห์นทำการรุกรานอาณาจักรโลกได้ แต่ต่อมาเธอถูกปลุกชีพบนโลกอีกครั้ง ในเส้นกาลเวลาใหม่ ซินเดลถูกปลุกชีพโดยควานชี เธอได้สังหารนักสู้จากโลกไปมากมายรวมทั้งคิทานาผู้เป็นลูกสาวของเธอเอง และเธอตายอีกครั้งขณะสู้กับไนท์วูล์ฟและกลายเป็นภูตที่คอยช่วยเหลือควานชี เซ็กทอร์
  34. เซตริออน (Cetrion) เธอเป็นเทพอาวุโส เป็นลูกสาวของโครนิกา และเป็นพี่น้องกับชินน็อก เธอคือเทพีแห่งธรรมชาติและชีวิต สามารถควบคุมธาตุดิน น้ำ ลม และไฟได้ เซตริออนได้ทรยศและสังหารเทพอาวุโสอื่นๆ เพื่อช่วยให้ภารกิจของโครนิกาสำเร็จ แม้เธอจะเป็นเทพ แต่เซตริออนก็ยอมสังเวยชีพตนเองเพื่อมอบความแข็งแกร่งให้กับโครนิกาในการต่อสู้กับเทพหลิวกัง
  35. เซ็กทอร์ (Sektor) เป็นหนึ่งในสมาชิกของหลินเกว่ย เป็นนินจาหุ่นไซบอร์กสีแดงผู้ซึ่งเคยมีร่างมนุษย์มาก่อน เขาเริ่มเป็นนักสู้จักรกลที่อันตรายและชั่วร้าย เซ็กทอร์ไม่เคยคิดจะคืนกลับความเป็นมนุษย์ของตนเองซึ่งตรงข้ามกับไซแรกซ์ เซ็กทอร์เป็นคนแรกที่อาสาเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นหุ่นไซบอร์กแห่งหลินเกว่ย เขาเป็นผู้ตามล่าซับซีโรเช่นกัน หลังจากเซ็กทอร์ได้ทำการต่อสู้กับทัพนอกพิภพ โปรแกรมของเขาเกิดความผิดปกติ เขาคิดว่าผู้นำหลินเกว่ยต้องอยู่เบื้องล่างของเขาและเขาจะเป็นควบคุมชาวหลินเกว่ยเอง เขาจึงตั้งเป้ากำจัดนายใหญ่ของตนและทำสำเร็จ แต่ถูกยับยั้งความเป็นผู้นำเพราะเขาพ่ายแพ้ซับซีโร หลังพ่ายแพ้เขาจึงหนีไปญี่ปุ่นและก่อตั้งเทคูนิน หน่วยนักสู้หุ่นไซบอร์กของเขาเอง ในเส้นกาลเวลาใหม่ เซ็กทอร์ถูกจ้างโดยชางจงให้ร่วมชิงชัยมอร์ทัลคอมแบทเพื่อสังหารนักสู้จากโลก แต่ต่อมาเขาถูกสังหารโดยซับซีโร ต่อมาในภาค 11 เขาได้ปรากฏตัวกลับมาอีกครั้งจากการแก้ไขเส้นกาลเวลาของโครนิกา
  36. ไซแรกซ์ (Cyrax) กำเนิดที่ประเทศบอตสวานา เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของหลินเกว่ย เป็นนินจาหุ่นไซบอร์กสีเหลืองผู้ซึ่งเคยมีร่างมนุษย์มาก่อนเช่นเดียวกับเพื่อนของเขาคือเซ็กทอร์ แม้เขาไม่ได้เต็มใจในการเปลี่ยนเป็นหุ่นไซบอร์กก็ตาม เขาถูกจับและรับภารกิจเป็นผู้ตามล่าซับซีโรกับสโมกที่หลบหนีออกจากหลินเกว่ย เพื่อที่จะนำเขากลับมาเป็นหุ่นไซบอร์กเช่นกัน ต่อมาซับซีโรเอาชนะไซแรกซ์และได้ตั้งโปรแกรมใหม่ให้ไซแรกซ์ไปทำลายเชาคาห์น แต่เขายังไม่ได้ทำภารกิจเนื่องจากเชาคาห์นได้พ่ายแพ้ต่อนักสู้จากโลกเสียก่อน ไซแรกซ์เสื่อมสภาพลงในทะเลทรายแห่งหนึ่ง และถูกนำไปซ่อมแซมโดยหน่วยรบพิเศษ คือ ซอนยาและแจ็กซ์ และตั้งโปรแกรมให้เขาต่อสู้เพื่อฝ่ายธรรมะ ต่อมาหลังการพ่ายแพ้ของชินน็อก ซอนยาและแจ็กซ์นำเขาไปยังหน่วยสำรวจนอกพิภพและและคืนความเป็นมนุษย์ให้เขาอีกครั้ง ไซแรกซ์ซาบซึ้งและร่วมเข้าสู่องค์กรนี้ ต่อมาไซแรกซ์เผชิญหน้ากับแวมไพร์สาวนิทารา เธอเสนอให้เขาช่วยหาสิ่งที่เธอต้องการเพื่อแลกเปลี่ยนกับการซ่อมแซมแขนที่สามารถนำเขากลับไปยังโลกได้ ไซแรกซ์ได้ลงไปยังชั้นใต้พสุธาในลาวาและค้นพบลูกแก้วที่สามารถแยกอาณาจักรของนิทาราออกจากนอกพิภพได้ เธอจึงได้ทำตามสัญญากับไซแรกซ์ได้ส่งเขากลับยังโลก ในเส้นกาลเวลาใหม่ ไซแรกซ์ถูกจ้างโดยชางจง ให้ร่วมชิงชัยมอร์ทัลคอมแบทเพื่อสังหารนักสู้จากโลก ต่อมาในภาค 11 ไซแรกซ์ซึ่งกลายเป็นไซบอร์กไปแล้ว ได้ถูกไกว้เหลียงและฮานโซแก้ไขคำสั่งโปรแกรมให้กลับมาร่วมมือกับฝ่ายไรเด็นอีกครั้ง
  37. ดราห์มิน (Drahmin) เป็นหนึ่งในโอนิ ปีศาจชั้นที่ห้าของเนเธอร์เรล์ม มีแมลงบินตอมอยู่รอบร่างกาย เขาใส่หน้ากากที่ช่วยให้เขาควบคุมโทสะและต่อสู้ด้วยรูปแบบของเนเธอร์เรล์มได้ แต่หากถอดออกเขาจะต่อสู้โดยไร้เป้าหมายและโจมตีแบบผิดปกติ แต่เดิมเขาเป็นแม่ทัพมนุษย์แห่งนอกพิภพ และด้วยความผิดมหันต์เขาถูกเนรเทศไปยังเนเธอร์เรล์มและถูกทรมาน เขาเป็นเพื่อนกับโมล็อก ครั้งหนึ่งชางจงเกรงว่าควานชีจะทรยศ จึงได้จ้างให้ดราห์มินและโมล็อกคอยปกป้องเขาจากควานชี ในขณะที่ควานชีก็จ้างทั้งคู่เช่นกัน
  38. ดาร์เรียส (Darrius) อดีตผู้คุมแห่งอาณาจักรเซโดะ ผู้หลงผิดชักนำให้คนอื่นร่วมต่อต้านกฎเกณฑ์ทั้งหลายในอาณาจักร กลยุทธ์หนึ่งของเขาคือการแอบลอบสังหารครอบครัวของไดโร เพื่อขับเคลื่อนให้ไดโรเกิดความแค้นและถูกขับไล่ออกจากการเป็นผู้คุม ซึ่งการหลอกชักนำเป็นผล ต่อมาเขาจ้างไดโรให้ขโมยคำประกาศใช้กฎแห่งรัฐบาลเซดัน
  39. เดกอน (Daegon) เป็นครึ่งเทพครึ่งอีเดเนียนและเป็นน้องชายของเทเว็น เขาเป็นผู้ที่ชั่วร้าย เป็นบุตรของเทพผู้คุ้มครองอีเดเนียคืออาร์กัส กับเดเลียแม่มดผู้หยั่งรู้อนาคต เดกอนเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มมังกรแดงขึ้นมา แต่เขาถูกสังหารในการสู้กับพี่ชายคือเทเว็น ทำให้เทเว็นเป็นผู้ได้โอกาสในการต่อสู้กับเบลซในเหตุการณ์อาร์มาเกดดอน เดวอราห์
  40. เดวอราห์ (D'Vorah) ในภาษาฮิบรูชื่อของเธอแปลว่าผึ้ง เธอมักแต่งกายด้วยชุดแถบสีเหลือง เธอมีลักษณะคล้ายแมลงที่เรียกว่าพวกเผ่าไคทินน์ จากอาณาจักรเกาะอาร์นเยค ซึ่งถูกรวมเข้าไว้กับนอกพิภพ เธอมีพลังในการควบคุมแมลง เธอรับใช้โคทัลคาห์น เมื่อมิลีนาถูกจับตัวได้ เธอได้เป็นผู้ลงมือสังหารมิลีนาเองเนื่องจากเคยมีความแค้นต่อกันมาก่อน แต่ต่อมาพบว่าแท้จริงแล้วเธอให้ความเคารพเทพชินน็อกกับควานชี ต่อมาในภาค 11 เธอได้รับใช้โครนิกาและเธอได้สังหารฮานโซ ฮาซาชิ
  41. ไดโร (Dairou) ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นผู้คุมแห่งอาณาจักรเซโดะที่น่านับถือคล้ายโฮทารุ แต่เขาถูกจำคุกด้วยเหตุที่เขาสังหารชายผู้ที่เขาคิดว่าได้สังหารครอบครัวของเขา สุดท้ายเขาหนีจากคุกในขณะเกิดความอลหม่านจากการนำการต่อต้านโดยดาร์เรียส หลังหนีออกมาเขาไม่ได้ยึดกฎชาวเซดันอีกต่อไปและกลายเป็นคนรับจ้าง เขาถูกจ้างให้ช่วยปล่อยชูจิงโกะจากคุก ต่อมาเขาถูกจ้างโดยดาร์เรียสให้ขโมยรัฐธรรมนูญแห่งเซโดะและหาโอกาสสังหารโฮทารุ
  42. ไตรบอร์ก (Triborg) ก่อนที่นายใหญ่แห่งหลินเกว่ยจะเสียชีวิต เขาได้เก็บบันทึกข้อมูลของสมาชิกทุกคนเอาไว้อย่างลับๆ ต่อมาหลังจากซับซีโรสังหารเซ็กทอร์ หน่วยรบพิเศษก็ได้พบข้อมูลที่เก็บไว้ดังกล่าวและนำมาทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการ จนทำให้ข้อมูลสัมปชัญญะของเซ็กทอร์, ไซแรกซ์ และ สโมก ประสานเข้าด้วยกันเกิดเป็นไตรบอร์ก ไตรบอร์กได้สังหารทุกคนในห้องปฏิบัติการแล้วหนีออกมา ภารกิจของไตรบอร์กคือเสาะหาและทำลายสิ่งมีชีวิต รวมทั้งสร้างหลินเกว่ยให้เป็นสำนักไซบอร์กอีกครั้ง ทาเคดะ
  43. ทานยา (Tanya) เธอมักแต่งกายด้วยชุดสีเหลือง เป็นหญิงร่างเพรียวและมองโลกในแง่ร้ายจากอาณาจักรอีเดเนีย เธอถูกเปลี่ยนให้ชั่วร้ายโดยปีศาจ เธอเคารพชินน็อกและให้ความช่วยเหลือพันธมิตรเดนตายกับโอนากะ เธอมักจะคิดว่าสิ่งที่ตัดสินใจนั้นถูกต้องแล้ว เธอเป็นผู้ทรยศต่ออีเดเนียและมีความแค้นกับเจด ทานยาได้หลบหนีไปนอกพิภพ ปีต่อมาเธอเป็นผู้ปฏิบัติการให้กับพันธมิตรเดนตาย แต่หลังจากพันธมิตรเดนตายโดนสังหาร บาราคาได้ให้เธอเลือกระหว่างจะรับใช้โอนากะที่ฟื้นคืนชีพหรือจะเลือกความตาย เธอจึงเลือกเข้าร่วมกับโอนากะผู้ซึ่งตามหาเครื่องเทวาทั้ง 6 เพื่อนำมารวมเป็นหนึ่งและนั่นเขาจะได้พลังมหาศาล ทานยาได้นำโอนากะไปยังอาณาจักรบ้านเกิดของเธอและช่วยทาร์คาทันตนหนึ่งจากการโจมตีของเจด ทานยาเป็นคนที่เชื่อใจไม่ได้ เธอหลอกลวงหลิวกังและชาวอีเดเนียน รวมทั้งซินเดล, เจด และคิทานา ในเส้นกาลเวลาใหม่ ทานยาได้รับใช้มิลีนาโดยหวังว่ามิลีนาจะสามารถปลดปล่อยอีเดเนียให้เป็นอิสระจากนอกพิภพ
  44. ทาเคดะ (Takeda) ชื่อเต็มคือ ทาคาฮาชิ ทาเคดะ กำเนิดที่เมืองลำปางประเทศไทย เขาเป็นลูกชายของเคนชิกับสุจิน(หญิงลูกครึ่งไทย-อเมริกัน) เมื่อกลุ่มมังกรแดงทราบว่าเคนชิมีลูกชายและภรรยา พวกเขาจึงออกตามล่า แม่ของทาเคดะได้ส่งทาเคดะหนีไปเมืองอื่น สุดท้ายแม่ของเขาถูกสังหาร ต่อมาเคนชิได้พบกับทาเคดะผู้เป็นลูกชาย เมื่อรู้ความจริงเคนชิเกิดความแค้นต่อพวกมังกรแดง เคนชิจึงได้มอบทาเคดะไว้กับฮานโซ ฮาซาชิ(สกอร์เปียน) เพื่อให้เป็นศิษย์ของสำนักชิไรริวและฝึกฝนฝีมือก่อนที่เขาจะออกไปชำระแค้นพวกมังกรแดง
  45. เทรเมอร์ (Tremor) เขาเป็นนินจาที่มักใส่ชุดแถบสีน้ำตาล และมีความสามารถในการสร้างก้อนดินเป็นอาวุธในการต่อสู้ รวมทั้งการทำให้พื้นดินสะเทือนได้ เทรเมอร์เคยเป็นสมาชิกมังกรดำ แต่เขามีความแค้นกับเคโนที่ครั้งหนึ่งเขาถูกเคโนทอดทิ้งไว้ในคุก เขายังได้ตามหาตัวแจ็กซ์เพื่อที่จะสังหารแจ็กซ์ให้ได้
  46. เทเว็น (Taven) เป็นครึ่งเทพครึ่งอีเดเนียน เป็นบุตรคนโตของเทพอาร์กัสผู้คุ้มครองอีเดเนียกับเดเลียแม่มดผู้ทรงพลังซึ่งสามารถมองเห็นอนาคตได้ ความสามารถของเทเว็นคือการควบคุมไฟคล้ายๆกับน้องชายคือเดกอน เทเว็นและเดกอนถูกจัดให้สู้กันโดยบิดาของพวกเขาเพื่อพิทักษ์อาณาจักรจากเหตุการณ์อาร์มาเกดดอนโดยการปราบสัตว์ประหลาดคือเบลซ พวกเขาถูกส่งไปยังโลกและเก็บฟูมฟักไว้โดยสองมังกร จนกระทั่งเบลซเรียกพวกเขาให้ตื่นขึ้น ผู้ชนะจะได้ดำรงตำแหน่งแทนบิดาของพวกเขาและกลายเป็นเทพเต็มตัวรวมทั้งเป็นผู้คุ้มครองอีเดเนีย เมื่อเทเว็นถูกปล่อยออกมาโดยมังกรของเขา เขาพบว่าเดกอนได้ตื่นขึ้นมาก่อนแล้วกว่า 100 ปี ทั้งเดกอนยังได้สังหารพ่อแม่ของพวกเขาเอง และก่อตั้งตระกูลมังกรแดงเพื่อหาตำแหน่งของเบลซและกำจัดเทเว็น แต่สุดท้ายเทเว็นเอาชนะเดกอนได้ในการต่อสู้และไปเผชิญหน้ากับเบลซ หลังเอาชนะเบลซได้พลังของเบลซได้เข้ามาเป็นของเทเว็น เขาจึงกลายเป็นเทพเต็มตัว แม้ว่าสุดท้ายพลังของเบลซจะถูกฉ้อฉลโดยบุรุษศักดิ์สิทธิ์ของโอนากะ ชัยชนะของเขาต่อเบลซจึงไม่ได้ทำให้เหล่านักสู้ตายหรือสูญเสียพลัง แต่กลับเพิ่มพลังของเหล่านักสู้และเร่งการเกิดเหตุการณ์อาร์มาเกดดอน เทเว็นต้องรับภารกิจในการหน่วงเวลาการเกิดเหตุการณ์อาร์มาเกดดอนจนกว่าจะหาทางแก้ไขได้
  47. นิทารา (Nitara) เป็นแวมไพร์สาวมีปีกสองข้าง เธอใช้เวลามายาวนานในการค้นหาลูกแก้วลึกลับซึ่งรวมอาณาจักรของเธอกับนอกพิภพไว้ อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถเข้าถึงลูกแก้วได้ เพราะมันอยู่ใต้ลาวาที่หลอมเหลว เธอสร้างข้อแลกเปลี่ยนกับไซแรกซ์เพื่อให้ไปเอาลูกแก้วให้เธอ เมื่อได้มาแล้วนิทาราได้ทำลูกแก้วให้แตกบนพื้นและแยกอาณาจักรของเธอออกจากนอกพิภพในที่สุด เธอหมดสติและเมื่อตื่นขึ้นมาเธอก็ได้อยู่ที่บ้านของตน เธอจึงได้ทำภารกิจปกป้องความมั่นคงของอาณาจักร ต่อมาประชาชนในอาณาจักรของเธอถูกสังหารไปจำนวนมาก นิทาราถูกส่งตัวโดยเทพของเธอเพื่อค้นหากองทัพตามคำทำนายที่สามารถจะทำลายอาวุธของฆาตกรผู้นั้นได้ ขณะเดินทางไปที่นั่นเธอได้พบกับอัชราห์ผู้เป็นเจ้าของอาวุธนั้น เพื่อปกป้องเชื้อสายของเธอนิทาราจึงลวงอัชราห์ออกจากอาณาจักรของเธอไปสู่อีเดเนีย เพื่อที่จะโจมตีอัชราห์ด้วยอาวุธของชาวอีเดเนียนที่อาจต่อกรกับอัชราห์ได้
  48. นูบ ไซบอต (Noob Saibot) เป็นร่างสีดำของซับซีโรผู้พี่(ปี้หาน) ที่ถูกสังหารจากความแค้นของสกอร์เปียนในมอร์ทัลคอมแบท ครั้งที่ 1 และถูกปลุกชีพใหม่ในเนเธอร์เรล์ม เขาสามารถแยกร่างเงาออกมาได้ เขากลายเป็นบริวารของเทพชินน็อก, เชาคาห์น, ควานชี และโครนิกา ชื่อนูบ ไซบอต ในภาษาอังกฤษนั้น เป็นการนำตัวอักษรในชื่อของผู้สร้างเกมคือ บูนและโทเบียส มาเรียงอักษรกลับหลัง) ในเส้นกาลเวลาใหม่ เขาถูกไนท์วูล์ฟเตะหายเข้าไปในโซลนาโด และต่อมาในภาค 11 เขาได้ปรากฏตัวอีกครั้งโดยกลับมารับใช้โครนิกา
  49. ไนท์วูล์ฟ (Nightwolf) เป็นหมอผีพื้นบ้านอเมริกัน ผู้ซึ่งถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในนักสู้จากโลก เขาสามารถสื่อสารกับไรเด็นทางภาพนิมิตได้ และมักมีลางสังหรณ์บอกเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ เขาจึงมักเป็นผู้ที่เตือนนักสู้คนอื่นถึงภัยที่จะเกิดขึ้น เขาเป็นผู้แยกร่างมังกรโอนากะออกจากเรปไทล์และตรึงโอนากะไว้ในเนเธอร์เรล์ม ในเส้นกาลเวลาใหม่ เขาถูกสังหารโดยซินเดล และถูกปลุกชีพเป็นภูตคอยรับใช้ควานชี บาราคา
  50. บาราคา (Baraka) เขาเป็นพวกกลายพันธุ์ที่เรียกว่าทาร์คาทัน เป็นนักสู้ที่รับใช้จักรพรรดิเชาคาห์นแห่งนอกพิภพ และต่อมายังได้เป็นพันธมิตรกับราชามังกรโอนากะ บาราคาเป็นสายพันธุ์ผสมระหว่างปีศาจจากเนเธอร์เรล์มและผู้อาศัยในแดนนอกพิภพ บาราคาจะมีดาบยาวที่มือและสามารถหดกลับได้ ในเส้นกาลเวลาใหม่ บาราคายังคงรับใช้เชาคาห์น ต่อมาเขาร่วมกับมิลีนาในการก่อกบฏต่อโคทัลคาห์น ก่อนที่บาราคาจะถูกสังหารโดยเดวอราห์ ต่อมาในภาค 11 บาราคาได้ปรากฏตัวอีกครั้งจากการแก้ไขเส้นกาลเวลาของโครนิกา เขาได้ตกลงร่วมทัพกับคิทานาในการต่อกรกับเชาคาห์นเพื่อผลประโยชน์ของเผ่าพันธุ์ที่จะได้โอกาสต่อรองกับโคทัลคาห์น
  51. เบลซ (Blaze) เป็นร่างแห่งธาตุไฟที่คอยไล่ล่าชัยชนะ เขาถูกโจมตีโดยพวกลัทธิโบราณ กลุ่มบุรุษศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงรับใช้ราชามังกรโอนากะได้จับตัวเบลซ โดยใช้เวทมนตร์และให้เขาคอยปกป้องไข่มังกรใบสุดท้าย หลังจากไข่ฟักออกมา เบลซสามารถที่จะดำเนินภารกิจเดิมของตนต่อ เบลซถูกสร้างขึ้นเพื่อเฝ้าดูความแข็งแกร่งของนักสู้ทั้งหมดจากทุกอาณาจักร หลังจากเป็นอิสระจากการคอยปกป้องไข่มังกร เบลซพบว่าตอนที่เขาได้หายไป พลังและจำนวนของเหล่านักสู้เริ่มมีมากจนเกินไป และเดกอนก็ได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาจึงวางแผนที่จะนำนักสู้ทั้งหมดมารวมกันเพื่อต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย สิ่งนี้ทำให้สองพี่น้องเทเว็นและเดกอนจะต้องหยุดเขาเพื่อป้องกันการเกิดอาร์มาเกดดอน เบลซรู้ว่ามีบางอย่างจากเนเธอร์เรล์มได้ส่งผลกับเดกอน เบลซตัดสินใจเดินทางไปที่นั่นเพื่อค้นหาต้นตอ เมื่อเทเว็นเอาชนะเดกอนในการต่อสู้แล้ว เบลซเตรียมต่อสู้กับเทเว็น แต่เขาได้ตกเป็นทาสรับใช้ของบุรุษศักดิ์สิทธิ์ของโอนากะ คาถาที่พวกเขาใช้กับเบลซได้ทำให้ภารกิจของเบลซผิดวัตถุประสงค์ไปจากเดิม สุดท้ายเทเว็นเอาชนะเบลซ แต่ก็ไม่สามารถหยุดการเกิดขึ้นของเหตุการณ์อาร์มาเกดดอนได้ โบไรโช
  52. โบไรโช (Bo' Rai Cho) เป็นปรมาจารย์ฝึกนักสู้ เขามักจะมึนเมาและถือขวดเหล้าอยู่เสมอ เขาเป็นชาวนอกพิภพผู้ซึ่งคอยฝึกฝนบรรดานักสู้ เนื่องจากเขากำเนิดจากนอกพิภพ เขาจึงไม่อาจเข้าร่วมชิงชัยมอร์ทัลคอมแบท เพราะจะหมายความว่าเขาจะแข่งขันในนามชาวนอกพิภพและนั่นคือในนามจักรพรรดิเชาคาห์นผู้โหดร้าย เขาได้ฝึกฝนเหล่านักสู้เพื่อเข้าร่วมในการแข่งขัน หลังล้มเหลวมาหลายครั้ง สุดท้ายเขาทำสำเร็จในการฝึกฝนหลิวกังซึ่งเอาชนะชางจงได้ และกลายเป็นแชมป์ของการแข่งขันมอร์ทัลคอมแบท เมื่อเขาได้ข่าวว่าหลิวกังถูกสังหารโดยพันธมิตรเดนตาย เขาได้ให้กงหล่าวอยู่ภายใต้การฝึกฝนของเขาแทน ขณะที่กลุ่มนักสู้จากโลกเตรียมการโจมตีคู่พันธมิตรเดนตายนั้น โบไรโชแอบเข้าไปในปราสาทและนำร่างของหลี่เหมยออกมา เขาได้รวมกลุ่มใหม่กับนักสู้อื่นจากโลกซึ่งนำโดยไรเด็น แต่ถอนตัวเพื่อความปลอดภัยไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ ในเส้นกาลเวลาใหม่ โบไรโชถูกสังหารโดยชินน็อก ณ วิหารฟ้าของไรเด็น
  53. ฟรอสต์ (Frost) เธอมักแต่งกายด้วยชุดแถบสีน้ำเงิน เธอถูกพบโดยซับซีโร ด้วยประทับใจในความสามารถและฝีมือของเธอเขาจึงให้เธอเป็นลูกมือ แต่ซับซีโรไม่สามารถจะสอนความถ่อมตนให้เธอได้ ฟรอสต์ปรารถนาจะเป็นผู้นำสูงสุดของสำนัก เธอตรึงซับซีโรด้วยน้ำแข็งและกระชากเหรียญมังกรสัญลักษณ์ที่เพิ่มความสามารถของซับซีโรและเป็นสัญลักษณ์ของผู้นำหลินเกว่ยออกจากอกของเขา ด้วยความที่เธอไร้ความสามารถและไม่เคยฝึกฝนเธอจึงไม่สามารถควบคุมเหรียญมังกรได้ ทำให้เธอถูกสังหารด้วยความสามารถในการแช่แข็งของเธอเอง ซับซีโรฝังศพเธอที่นอกพิภพและยกโทษให้เธอ ต่อมาฟรอสต์ได้ตื่นขึ้นและรู้ตัวว่าอยู่นอกพิภพ โดยเธอเชื่อว่าซับซีโรได้เอาเหรียญมังกรของเธอไป เธอจึงกลับไปยังหลินเกว่ยบนโลกเพื่อสังหารซับซีโร แต่ซับซีโรได้แช่แข็งเธอและเก็บเธอไว้ในหีบลึกใต้วิหาร เมื่อเทเว็นได้เข้ามายังวิหารหลินเกว่ย เขาได้สลายน้ำแข็งและปลดปล่อยเธอ ตอนแรกเธอคิดว่าเทเว็นคือซับซีโรและต่อสู้กับเขา เมื่อรู้ความจริงเธอได้วิ่งออกไปพร้อมความอายและหัวเสีย ในเส้นกาลเวลาใหม่ ฟรอสต์ลอบทำร้ายฮานโซ แต่ถูกขัดขวางและแช่แข็งโดยซับซีโร ต่อมาในภาค 11 เธอได้เป็นผู้ควบคุมไซบอร์กแห่งหลินเกว่ยเพื่อช่วยเหลือภารกิจของโครนิกา
  54. ฟูจิน (อังกฤษ: Fujin; จีน: 風神; pinyin: Fūjin) เขาเป็นเทพแห่งวายุหรือลม เป็นหนึ่งในสี่ของผู้ที่ได้รับมอบหมายโดยไรเด็นให้คอยเฝ้าคุ้มครองเครื่องรางของชินน็อก เขาได้ร่วมกับไรเด็นในการต่อต้านชินน็อกและช่วยกองทัพชาวโลกในการโจมตีปราสาทของเชาคาห์น หลังชินน็อกพ่ายแพ้ ฟูจินได้กลายเป็นเทพองค์ใหม่แห่งอาณาจักรโลกโดยไรเด็นเป็นผู้มอบตำแหน่งให้ ในเส้นกาลเวลาใหม่ ฟูจินช่วยไรเด็นในการต่อสู้กับชินน็อกและควานชี
  55. เฟร์รา/ทอร์ (Ferra/Torr) มีสองร่างโดยต่อสู้ร่วมกัน เฟร์ราเป็นหญิงแคระ ส่วนทอร์เป็นชายร่างใหญ่ เป็นหนึ่งในสปีชีส์ของนอกพิภพที่มีพันธะพึ่งพากัน พวกเขาเป็นผู้คอยคุ้มกันให้กับโคทัลคาห์น เนื่องจากโคทัลคาห์นเคยเป็นผู้ที่ช่วยปลดปล่อยพวกเขาทั้งคู่จากพวกทาร์คาทัน
  56. มาวาโด (Mavado) นับตั้งแต่กลุ่มมังกรแดงของเขาถูกทำลายโดยกลุ่มมังกรดำ เขายังคงต้องปิดความลับการรอดชีวิต เขาตัดสินใจใช้หน่วยรบพิเศษเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของตนเอง มาวาโดได้ให้คู่หูของเขาคือสู่เฮ่า แฝงตัวไปยังหน่วยสำรวจโลกภายนอก และช่วยพวกเขาในการสังหารสมาชิกคนสุดท้ายของมังกรดำ ต่อมามาวาโดถูกจ้างโดยพันธมิตรเดนตายให้ไปสังหารเคนชิ เพื่อแลกกับโอกาสการพบกับสมาชิกคนสุดท้ายขององค์กรมังกรดำคือเคโนซึ่งตอนนี้เป็นนายพลของพันธมิตรเดนตาย และให้พวกเขาทำลายหน่วยสำรวจโลกภายนอกเพื่อป้องกันหน่วยรบพิเศษที่จะสามารถออกมาสู่นอกพิภพได้ทางประตูมิติ มาวาโดทำได้สำเร็จ มาวาโดเอาชนะเคนชิได้ จึงทำให้เขาสามารถที่จะต่อสู้กับเคโนได้ตามสัญญา อย่างไรก็ตาม มาวาโดได้จับตัวเคโนและให้สมุนนำตัวไปยังกองบัญชาการ ต่อมาคาบาลได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่จากการพักฟื้นในอาณาจักรเคออส และดูเหมือนเขาจะสังหารมาวาโดและได้รับดาบตะขอคืน มิลีนา
  57. มิลีนา (Mileena) เธอมักแต่งกายด้วยชุดสีชมพู เป็นมือสังหารที่คอยรับใช้เชาคาห์น และเป็นน้องสาวที่ชั่วร้ายของคิทานา เธอมีความอิจฉาต่อคิทานา นอกจากนี้เธอยังรับใช้ชินน็อกและโอนากะด้วย ในเส้นกาลเวลาใหม่ เธอถูกสร้างขึ้นโดยชางจงโดยเธอเป็นตัวโคลนของคิทานาที่ไม่สมบูรณ์จากการนำเลือดคิทานาไปผสมกับพวกทาร์คาทัน ทำให้เธอมีฟันยาวและแหลมคม เธอคอยรับใช้เชาคาห์นและได้ขึ้นครองบัลลังก์แห่งนอกพิภพหลังจากเชาคาห์นตาย แต่ต่อมาถูกแย่งชิงตำแหน่งโดยโคทัลคาห์น และเธอถูกสังหารโดยเดวอราห์
  58. มีท (Meat) เป็นตัวทดลองที่น่าสยอง มีลักษณะเป็นเนื้อหนังและเลือดอาบ ถูกสร้างโดยชางจง แต่เขาได้ออกมาจากคลัตช์ของพ่อมดก่อนที่จะสามารถทำการได้เสร็จสมบูรณ์
  59. โมแค็ป (Mokap) เป็นนักแสดงตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกาย และมีลูกบอลตามร่างกาย เขามีความรู้เกี่ยวกับศิลปะและรูปแบบการต่อสู้ เดิมเขาเป็นอาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ทางตอนเหนือของชิคาโก วันหนึ่งเขาถูกเรียกตัวโดยจอห์นนี เคจ เพื่อทำงานแสดงเกี่ยวกับการตรวจจับการเคลื่อนไหวในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขา โมแค็ปจึงได้เข้าสู่ฮอลลีวู้ด โมแค็ปร่วมต่อสู้ในฝ่ายธรรมะและได้รับพลังพิเศษบางอย่าง
  60. โมทาโร (Motaro) เป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์จำพวกม้า มีเขา มีหางยาว มี 2 แขนและ 4 ขา เรียกว่า เซนทอร์(Centaur) โมทาโรได้มีความขัดแย้งกับเผ่าโชคานมายาวนาน (พวกมี 4 แขนและ 2 ขา ได้แก่ โกโร, ชีวา และคินทาโระ) เนื่องจากเชาคาห์นโปรดปรานพวกเซนทอเรียนและช่วยโมทาโรในการปราบปรามเชื้อสายโชคาน โมทาโรมีหางคล้ายใบมีดและผิวหนังที่มีความสามารถสะท้อนกลับการจู่โจมจากคู่ต่อสู้ ต่อมาเซนทอร์ถูกสาปโดยเผ่าโชคานให้เหลือเพียง 2 เท้า จึงเรียกเป็นชื่อใหม่ว่า มิโนทอร์(Minotaur) ในเส้นกาลเวลาใหม่ โมทาโรถูกสังหารโดยไรเด็น
  61. โมล็อก (Moloch) เป็นสหายของดราห์มิน และเป็นปีศาจตัวโตจากเนเธอร์เรล์ม พ่อมดควานชีได้ยื่นข้อเสนอการปลดปล่อยพวกเขาออกจากเนเธอร์เรล์ม หากพวกเขายอมช่วยปกป้องควานชีจากนินจาสกอร์เปียน พวกเขายอมรับข้อเสนอและคอยจัดการสกอร์เปียนเมื่อเขาเข้าใกล้ควานชี ในเส้นกาลเวลาใหม่ เชื่อว่าโมล็อกถูกสังหารแล้วโดยควานชี เนื่องจากในตัวเกมมีฉากที่ควานชีได้หิ้วหัวโมล็อกก่อนจะโยนทิ้งไป
  62. เรโกะ (อังกฤษ: Reiko; ญี่ปุ่น: レイコ) เป็นนายพลประจำกองทัพของชินน็อกและเชาคาห์น เรโกะมีแรงดลใจที่วันหนึ่งจะได้แทนที่จักรพรรดิ เขาได้ทำลับๆ ล่อๆ ที่ห้องของเชาคาห์นและสวมหมวกเหล็ก เรโกะพยายามให้เทเว็นร่วมกองทัพของคาห์น เนื่องจากประทับใจในฝีมือการต่อสู้ แต่เทเว็นไม่ได้ใส่ใจเพราะเขาเพียงต้องการสังหารควานชีและเอาชนะเรโกะเท่านั้น ไรเด็น
  63. เรน (Rain) เขามักแต่งกายด้วยชุดแถบสีม่วง มีพลังในการควบคุมน้ำ เขาเป็นชาวอีเดเนียนที่หลบหนีออกมาระหว่างที่คาห์นบุกอาณาจักรและพ่อเลี้ยงของเขาซึ่งเป็นแม่ทัพได้ถูกสังหาร พันปีต่อมาเรนกลับมาในระหว่างที่คาห์นบุกโลก และเขาเลือกอยู่ข้างคาห์น ต่อมาควานชีได้บอกกับเรนว่า แท้จริงแล้วเรนคือผู้สืบสกุลที่แท้จริงของอาร์กัสเทพผู้คุ้มครองอีเดเนีย เรนจึงได้เริ่มอ้างตนเป็นเจ้าชายแห่งอาณาจักร แต่เขายังคงเลือกอยู่ข้างอธรรมแม้เขาจะไม่ได้รับใช้คาห์นแล้วก็ตาม ในเส้นกาลเวลาใหม่ เรนได้รับใช้มิลีนาและเสนอความคิดให้มิลีนาขโมยเครื่องรางของชินน็อกมาเพื่อต่อกรกับโคทัลคาห์น
  64. เรปไทล์ (Reptile) เขามักแต่งกายด้วยชุดแถบสีเขียว เป็นแรปเตอร์ที่เกือบสูญพันธุ์มีสองขาเหมือนมนุษย์แต่ใบหน้าคล้ายสัตว์เลื้อยคลานสามารถพ่นกรดได้ เรปไทล์ได้รับใช้เชาคาห์น โดยหวังว่าเผ่าพันธุ์ของตนเองจะถูกฟื้นฟูขึ้นอีกครั้ง เรปไทล์เป็นศัตรูที่ซ่อนเร้นอย่างลึกลับ เรปไทล์ถูกดึงออกไปนอกพิภพเพื่อเป็นทาสของเชาคาห์น โดยคาห์นสัญญาจะปลุกชีพเผ่าพันธุ์ของเขาให้เพื่อสนองความภักดี เรปไทล์ได้รับใช้เชาคาห์นโดยทำหน้าที่เป็นทหารประจำตัวของชางจง และถูกสั่งให้ไปสังหารเจ้าหญิงคิทานาแต่ก็พ่ายแพ้ ต่อมาเรปไทล์ได้ไปเป็นผู้รับใช้ของเทพชินน็อก เรปไทล์ได้เจอกับไข่แห่งมังกรโอนากะ ซึ่งได้แปลงร่างเรปไทล์ไปเป็นอวตารของโอนากะจนนำไปสู่เหตุการณ์ดีเซพชั่น ในเส้นกาลเวลาใหม่ เรปไทล์คอยรับใช้เชาคาห์น และต่อมาได้ร่วมกับโคทัลคาห์นในการโค่นบัลลังก์มิลีนา
  65. ไรเด็น หรือ เรย์เดน (อังกฤษ: Raiden/Rayden; ญี่ปุ่น: 雷電) ชาวอเมริกันพื้นเมืองรู้จักในนามเฮาคาห์ (Haokah) คือเทพสายฟ้าของจักรวาลมอร์ทัลคอมแบทและคอยคุ้มครองอาณาจักรโลก เขามีความสามารถควบคุมสายฟ้า สามารถเหาะและหายตัวได้ เมื่ออาณาจักรโลกเริ่มก่อตั้ง ไรเด็นเป็นผู้คอยคุ้มครอง เขาต่อสู้กับเทพอาวุโสชินน็อกผู้ขี้โกงซึ่งต้องการล้มล้างเหล่าเพื่อนเทพของเขา ด้วยความช่วยเหลือของเหล่าเทพอาวุโส ไรเด็นเอาชนะชินน็อกและเนรเทศเขาสู่เนเธอร์เรล์ม และคุ้มกันเครื่องรางแห่งพลังของชินน็อกในสถานที่ลับ ณ วิหารในเทือกเขาของเนปาล ชางจงได้เชิญไรเด็นให้เข้าร่วมชิงชัยมอร์ทัลคอมแบท และใช้ร่างมนุษย์ในการต่อสู้ ไรเด็นรู้ถึงความตั้งใจของเชาคาห์นจึงเตือนสมาชิกที่เหลือหลิวกังและกงหล่าวให้ระวังภัยจากเชาคาห์น ไรเด็นได้เดินทางสู่นอกพิภพเพียงลำพัง แม้เชาคาห์นจะเอาวิญญาณทุกดวงจากโลกเป็นของตนเองได้ แต่ไรเด็นสามารถปกป้องดวงวิญญาณของหลิวกังและนักสู้อื่นๆที่เขาเลือกได้ ในเส้นกาลเวลาใหม่ ไรเด็นได้ส่งภาพนิมิตกลับไปในอดีตเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อาร์มาเกดดอน แต่ต่อมาเขาเกิดพลั้งมือสังหารหลิวกังโดยไม่ตั้งใจ ต่อมาไรเด็นเริ่มเข้าสู่ด้านมืด เขาต้องการปกป้องอาณาจักรโดยใช้ความรุนแรงเนื่องจากเห็นว่าการใช้ความเมตตาไม่ส่งผลดีใดๆ โดยในภาค 11 โครนิกาได้แก้ไขเส้นกาลเวลาจึงทำให้ไรเด็นด้านมืดหายไปเหลือแต่ไรเด็นด้านสว่างรายเดิม ในตอนท้ายไรเด็นได้มอบพลังเทพของตนให้กับหลิวกังเพื่อสู้กับโครนิกา
    ชื่อ Raiden ออกเสียงว่า ไรเด็น ตามภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของตัวละครเทพสายฟ้า โดยคำว่า ไร- (雷) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าสายฟ้า ส่วน -เด็น (電) แปลว่าไฟฟ้า (ในโบราณแปลว่าฟ้าแลบ) ปัจจุบันในเวอร์ชันของเกมอาเขตชื่อของไรเด็นสะกดในภาษาอังกฤษว่า Raiden แต่เวอร์ชันอื่นๆ เช่น ภาพยนตร์, ซีรีส์โทรทัศน์, และคอมมิค จะเลี่ยงไปสะกดเป็น Rayden ซึ่งอาจเพราะปัญหาด้านลิขสิทธิ์จากชื่อหรือเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนกับชื่อ Raiden ของซีรีส์ Fatal Fury ดังนั้นเวอร์ชันเกมคอนโซลในอดีตจนถึงมอร์ทัลคอมแบท 4 และภาพยนตร์จึงได้ใช้ชื่อเป็น Rayden ซึ่งเมื่อสะกดแบบนี้จึงอาจเขียนชื่อเป็นภาษาไทยว่า เรย์เดน ก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามทางผู้สร้างเกมอย่าง เอ็ด บูน ไม่ได้รู้สึกชอบในการเปลี่ยนชื่อดังกล่าว [1]สกอร์เปียน
  66. สกอร์เปียน (Scorpion) เดิมชื่อ ฮานโซ ฮาซาชิ (Hanzo Hasashi) แห่งสำนักชิไรริว เขามักแต่งกายด้วยชุดแถบสีเหลือง แต่ต่อมาได้ถูกสังหารและถูกปลุกชีพกลายเป็นปีศาจนินจาที่คอยแสวงหาทางแก้แค้นผู้ที่ได้สังหารตัวเขาและบรรพบุรุษชิไรริวของเขา ซึ่งเขาคิดว่าฆาตกรผู้นั้นคือซับซีโร เขาจะเป็นพันธมิตรกับใครก็ตามที่สามารถแสวงหาหนทางแก้แค้นให้เขาได้ ควานชีจึงได้ใช้โอกาสนี้ในการสร้างสัญญาเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ต่อกัน ทั้งที่แท้จริงแล้วควานชีคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารในครั้งนั้น ในเส้นกาลเวลาใหม่ สกอร์เปียนเป็นภูตที่คอยรับใช้ควานชี ต่อมาเขาถูกถอนมนตร์โดยไรเด็นและกลับเป็นมนุษย์อีกครั้ง ซับซีโรได้แสดงหลักฐานความจริงกับ ฮานโซ ฮาซาชิ เกี่ยวกับการตายของลูกและภรรยาของเขารวมทั้งการสูญสิ้นชิไรริว จนทำให้ฮานโซตามล่าและสังหารควานชีผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดได้ในที่สุด แต่ต่อมาในภาค 11 ฮานโซได้เกลี้ยกล่อมร่างสกอร์เปียนของตนให้เลิกช่วยเหลือโครนิกา ก่อนที่ฮานโซจะถูกสังหารโดยเดวอราห์ ส่วนสกอร์เปียนหลังจากสำนึกได้ก็กลับไปร่วมมือกับไรเด็น
  67. สการ์เลต (Skarlet) เธอมักแต่งกายด้วยชุดสีแดงเลือด เธอเคยเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน เธอเป็นนักสู้ที่ถูกสร้างและปลดปล่อยโดยเชาคาห์น เป้าหมายเดียวของเธอคือการหาจุดประสงค์ที่แท้จริงของควานชี ในการเข้าร่วมมอร์ทัลคอมแบท เธอใช้ดาบโคดาชิและมีดคุนาอิ และมีความสามารถในการใช้เลือดเป็นอาวุธในการต่อสู้
  68. สไตรเกอร์ (Stryker) หรือ เคอร์ทิส สไตรเกอร์ เป็นตำรวจผู้นำของหน่วยควบคุมการจลาจล เมื่อประตูเชื่อมนอกพิภพได้เปิดขึ้น ณ เมืองหนึ่งที่ไม่ทราบชื่อ วิญญาณของเหล่ามนุษย์ถูกยึดเอาไปโดยเชาคาห์น ยกเว้นนักสู้ผู้ที่ถูกเลือกไว้โดยไรเด็นเท่านั้น สไตรเกอร์ไม่เข้าใจว่าทำไมเขายังคงอยู่รอด จนกระทั่งเขาได้พบไรเด็น และบอกให้เขาไปพบกับนักสู้ที่ถูกเลือกคนอื่นๆ และเรียนรู้ถึงความสำคัญที่เขายังคงรอดชีวิต เขาไม่ได้ปรารถนาจะเป็นเพียงไม่กี่คนที่รอด แต่เขาอยากแก้แค้นให้กับผู้บริสุทธิ์ ในเส้นกาลเวลาใหม่ เขาร่วมต่อสู้ปกป้องโลกแต่ถูกสังหารโดยซินเดล ต่อมาถูกปลุกชีพเป็นภูตคอยรับใช้ควานชี
  69. สโมก (Smoke) เดิมชื่อ โทมัส เวอรบาดา เป็นชาวสาธารณรัฐเช็ก เขามักแต่งกายด้วยชุดสีเทา-ดำ มีผมสีเงินและมีควันฟุ้งจากร่างกาย ตอนที่เขาเป็นเด็ก เขาถูกลักพาตัวและถูกบูชายัญแก่ปีศาจ และต่อมาได้คืนร่างมนุษย์แต่สูญเสียความทรงจำ เขาเป็นมือสังหารแห่งสำนักหลินเกว่ยและเป็นเพื่อนกับซับซีโรผู้น้อง ทั้งคู่ได้ออกไปนอกพิภพเพื่อสังหารชางจงแต่ไม่สำเร็จ เมื่อทั้งสองกลับมาที่หลินเกว่ย เขาพบว่าพวกหลินเกว่ยเตรียมการเลือกนักสู้ที่ดีที่สุดเพื่อแปลงร่างกายไปเป็นหุ่นไซบอร์ก เหมือนที่ทำกับไซแรกซ์และเซคทอร์มาแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งสโมกและซับซีโรได้หนีออกมา แต่สโมกถูกจับตัวได้และถูกเปลี่ยนเป็นหุ่นไซบอร์ก สโมกถูกตั้งโปรแกรมให้ตามล่าซับซีโรเพื่อนของเขา แต่เขาได้ค้นพบว่าเขายังคงมีจิตวิญญาณและเป็นหนึ่งในนักสู้ที่ไรเด็นได้เลือกไว้ เขาจึงช่วยซับซีโรต่อสู้กับไซแรกซ์และเซ็กทอร์ ในเส้นกาลเวลาใหม่ สโมกไม่ได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นหุ่นไซบอร์ก เขาถูกสังหารโดยซินเดล และถูกปลุกชีพเป็นภูตคอยรับใช้ควานชีและเรียกตัวเองว่า เอเนนรา (Enenra) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบขึ้นจากควันและไอหมอก หลิวกัง
  70. สู่เฮ่า (อังกฤษ: Hsu Hao; จีน: 許浩; pinyin: Xǔ hào [สู่ เฮ่า]) เป็นสมาชิกกลุ่มมังกรแดงและเป็นคู่หูของมาวาโดในการร่วมทำลายกลุ่มมังกรดำ สู่เฮ่าได้ทำตามคำสั่งจนกลุ่มมังกรดำดูเหมือนจะหมดไปนับแต่จาเร็กได้หายไป มาวาโดยังสั่งให้สู่เฮ่าทำลายฐานใต้ดินซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างอาณาจักร เขาวางอาวุธนิวเคลียร์เล็กๆ และหนีออกมาก่อนมันระเบิด
  71. หลิวกัง หรือ ลิวแคง (อังกฤษ: Liu Kang; จีน: 劉鋼; pinyin: Liú gāng [หลิว กัง]) เดิมเป็นพระแห่งเส้าหลินที่เข้าร่วมชิงชัยมอร์ทัลคอมแบท เพื่อปกป้องอาณาจักรโลกจากการถูกรุกราน ตั้งแต่เขาได้รับชัยชนะ เขาก็ได้กลายเป็นผู้นำอาณาจักรโลกในการต่อสู้ โดยมีเทพไรเด็นคอยช่วยเหลือ หลิวกังยังมีสัมพันธภาพที่โรแมนติกกับเจ้าหญิงคิทานาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของ เชาคาห์นจักรพรรดิแห่งนอกพิภพ หลิวกัง ต่อสู้ด้วยกังฟู เขาเข้าร่วมมอร์ทัลคอมแบท ครั้งที่ 10 ในเส้นกาลเวลาเดิมเพื่อปกป้องอาณาจักรโลกจากการถูกยึดครอง และเขาสามารถเอาชนะโกโรได้ ในเส้นกาลเวลาใหม่ หลิวกังสามารถเอาชนะชางจง และเชาคาห์นผู้ยิ่งใหญ่ ก่อนถูกไรเด็นพลั้งมือสังหาร ต่อมาหลิวกังถูกปลุกชีพเป็นภูตคอยรับใช้ควานชีและชินน็อก ต่อมาภาค 11 หลิวกังในภาคมนุษย์ได้ปรากฏตัวอีกครั้งจากการแก้ไขเส้นกาลเวลาของโครนิกา และเขาได้รับพลังจากไรเด็นเพื่อต่อสู้กับโครนิกาและได้รับชัยชนะในที่สุด เขาจึงได้กลายเป็นผู้ที่จะกำหนดเส้นกาลเวลาแห่งจักรวาลขึ้นมาใหม่
  72. หลี่เหมย (อังกฤษ: Li Mei; จีน: 李梅; pinyin: Lǐ méi [หลี่ เหฺมย์]) เป็นชาวนอกพิภพ ชาวบ้านในหมู่บ้านของเธอถูกเกณฑ์ไปเป็นทาสเพื่อสร้างปราสาทของชางจงรอบโซลนาโด ควานชี ได้ยื่นสัญญาการปลดปล่อยหากเธอต่อสู้เอาชนะเคโนได้ ระหว่างนี้เธอได้เป็นมิตรกับชูจิงโกะผู้ที่ถูกจับโดยเคโนระหว่างตามหาเครื่องเทวามา 40 ปี ชูจิงโกะเสนอจะฝึกวิชาต่อสู้ให้เธอแม้จะดูมีโอกาสชนะน้อย แต่แล้วเธอชนะในการต่อสู้และได้รับสิทธิในการปลดปล่อยร่างทหารของราชามังกรได้หนึ่งราย ในช่วงเหตุการณ์ดีเซพชัน โบไรโชได้ช่วยชีวิตเธอ หลี่เหมยได้รับมุมมองบางอย่างจากนักสู้โบราณคนนี้ ต่อมาเมื่อราชามังกรโอนากะฟื้นคืนชีพ เธอได้กลับกลายเป็นราชินีของราชามังกร ในเส้นกาลเวลาใหม่ หลี่เหมยได้นำประชาชนของเธอลี้ภัยสงครามพลเรือนของนอกพิภพมาที่อาณาจักรโลก
  73. อัชราห์ (Ashrah) เธอมักแต่งกายด้วยชุดสีขาว และสวมหมวกใบใหญ่ที่มีผ้าคลุม เธอเป็นปีศาจสาวจากเนเธอร์เรล์ม มีรูปพรรณงดงามและอ่อนน้อม ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นสมาชิกกลุ่มผองพี่น้องแห่งเงาของควานชี ซึ่งนับถือเทพอาวุโสผู้ตกต่ำชินน็อก วันหนึ่งอัชราห์ปฏิเสธจะทำตามคำสั่งของควานชี ขณะที่เธอหนีออกจากเนเธอร์เรล์ม เธอได้พบดาบศักดิ์สิทธิ์คือกริช ซึ่งจะทำให้วิญญาณของเธอบริสุทธิ์จากความชั่วร้ายในแต่ละครั้งที่เธอทำการฆ่า โดยเธอไม่ได้รู้ว่าที่จริงแล้วมีดนั้นคืออาวุธในการฆ่าแวมไพร์ ซึ่งมันทำให้ผู้ที่ถือมันมีความเชื่อผิดๆในการใช้มันฆ่าแวมไพรฺ์และปีศาจอื่นๆ เธอได้ตามหานูบไซบอต ผู้ที่เธอคิดว่าเป็นปีศาจผู้ทรงพลัง เพราะนั่นเท่ากับทำให้เธอบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ หลังจากเธอได้สังหารปีศาจมากมายในเนเธอร์เรล์ม เธอได้ปรากฏออกมาในอาณาจักรที่ไม่คุ้นเคย ห้อมล้อมโดยเหล่าเทวา พวกเขาได้เลือกเธอ ผู้ที่จะขึ้นเป็นนางฟ้าแห่งแสงสว่าง ที่ครั้งหนึ่งเธอได้ใช้อาวุธผลาญความมืด หลังจากยอมทำตามความตั้งใจของพวกเขา อัชราห์ถูกนำไปยังเวเทอร์นัสเพื่อเริ่มสังหารพวกแวมไพร์ซึ่งเธอเห็นว่าพวกมันเป็นสิ่งชั่วร้าย แต่เธอพ่ายแพ้ให้กับนิทาราแล้วออกจากอีเดเนียเพื่อตามหาพลังของเบลซเพื่อที่จะทำลายนิทาราและรับความบริสุทธิ์ เออร์แม็ก
  74. เออร์แม็ก (Ermac) เขามักแต่งกายด้วยชุดแถบสีแดง เขาเป็นร่างที่ประกอบด้วยวิญญาณจำนวนมากของนักสู้ที่ถูกสร้างโดยชางจง ด้วยเหตุนี้เออร์แม็กจึงเป็นร่างพหุวิญญาณและเรียกแทนตัวเองว่าเรา เขาเป็นหนึ่งในนักสู้ของเชาคาห์น เออร์แม็กจะดูดวิญญาณมาสะสม ในภารกิจหนึ่งในเนเธอร์เรล์มเออร์แม็กได้คุ้นเคยกับชูจิงโกะ แม้ภายหลังเชาคาห์นจะพ่ายแพ้ตอนบุกโลกเออร์แม็กยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของคาห์นและเตร็ดเตร่ออกไปนอกพิภพ ต่อมาเคนชิได้พบเออร์แม็กและปลดปล่อยเขาจากการควบคุมของเชาคาห์น เออร์แม็กตัดสินใจชดเชยหนทางเดิมที่เขาทำด้วยการเป็นนักสู้ที่ดี หลังจากการตัดสินใจนี้เขาได้พบกับหลิวกังผู้ที่ต้องการมิตรและปลดปล่อยเหล่าสหายจากการตกเป็นทาส เออร์แม็กจึงรับโอกาสนี้ในการชดเชยสิ่งที่เคยทำผิดในนามของเชาคาห์น เขาจึงช่วยหลิวกังและปล่อยเหล่าสหายจากการควบคุมของโอนากะได้สำเร็จ ต่อมาพบว่าหนึ่งในวิญญาณที่อยู่ในเออร์แม็ก คือกษัตริย์เจอร์รอดผู้เป็นอดีตสามีของซินเดลและบิดาของคิทานา ในเส้นกาลเวลาใหม่ เออร์แม็กเป็นผู้ทำลายแขนปกติของแจ็กซ์ เขายังคงคอยรับใช้เชาคาห์น และต่อมารับใช้โคทัลคาห์น เออร์รอน แบล็ค
  75. เออร์รอน แบล็ค (Erron black) เป็นชาวโลกและเป็นพวกรับจ้าง เขาได้ไปสู่นอกพิภพและเป็นผู้คอยให้ความช่วยเหลือโคทัลคาห์นซึ่งเป็นนายจ้าง แบล็คมีความถนัดในการใช้ปืนต่างๆในยุคของเขา คือปี ค.ศ.1880 กล่าวกันว่าเขาเคยพยายามเข้าร่วมกับกลุ่มมังกรดำแต่ถูกปฏิเสธ ต่อมาในภาค 11 เขาปรากฏตัวขึ้นในโคลีเซียมและเลือกรับใช้เชาคาห์นและต่อสู้กับโคทัลคาห์นแทน
  76. โอนากะ (Onaga) หลายล้านปีก่อนถูกรู้จักในชื่อราชามังกรและเป็นผู้ปกครองนอกพิภพ ต่อมาเชาคาห์นซึ่งเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาได้วางยาเขาและยึดครองนอกพิภพไว้เอง โอนากะสามารถเก็บสติของตนไว้ในหลุมศพได้ ก่อนที่หลิวกังจะเป็นผู้ชนะในการชิงชัยครั้งแรก โอนากะได้ติดต่อทางความตายกับชูจิงโกะโดยผ่านร่างอวตารชื่อดามาชิ (แปลว่า การหลอกลวง) เขาโน้มน้าวให้ชูจิงโกะทำการรวบรวมเครื่องเทวาทั้ง 6 หรือคามิโดกุจากแต่ละอาณาจักร โดยอ้างว่าเขาเป็นทูตของเทพอาวุโส เมื่อไข่มังกรฟักออกมามันได้เคลื่อนย้ายพลังไปยังเรปไทล์ ซึ่งเป็นการเติมเต็มให้โอนากะคืนชีพกลับมาโดยสมบูรณ์ โอนากะใช้ร่างที่แปลงของเรปไทล์เป็นที่อาศัย หลังจากเขาเอาชนะควานชี, ชางจง และไรเด็น โอนากะได้ปลุกชีพนักรบของโลกมาเป็นทาสรับใช้ของเขา เขาสร้างพันธมิตรกับเหล่าทาร์คาทันเพื่อให้สกัดกองทัพของอีเดเนียไว้ที่อ่าวในขณะที่เขากำลังค้นหาเวทมนตร์ที่จะรวมเครื่องเทวาเข้าด้วยกันและทำให้เขามีพลังสูงสุด อย่างไรก็ตาม ชูจิงโกะเอาชนะโอนากะได้ และทิ้งเขาไว้กับเครื่องรางของชินน็อกไว้เป็นตัวคอยป้องกัน โดยไนท์วูล์ฟได้ช่วยตรึงวิญญาณของโอนากะไว้ภายในอาณาจักรโดยแยกออกจากร่างของเรปไทล์ ต่อมาชินน็อกได้เข้าใกล้โอนากะและยื่นข้อเสนอให้เขาปกครองนอกพิภพถ้าเขาช่วยเดกอนให้เอาชนะเบลซและได้พลังดุจเทพนั้น โอนากะได้ถูกปล่อยจากพันธนาการและคืนร่างเดิม เขาได้ร่วมกับควานชี ชางจง และเชาคาห์น ในการวางแผนทำลายเบลซ ซึ่งเกิดขึ้นที่อีเดเนีย
  77. ฮาวิก (Havik) มีใบหน้าเหมือนศพ ร่างของเขาสามารถบิดไปในลักษณะที่แปลกได้ เขาเป็นนักพรตจากเคออสเรล์มหรืออาณาจักรแห่งความยุ่งเหยิง เขาเป็นกลางเพราะไม่ว่าดีหรือชั่วความปรารถนาของเขาคือการขยายความไม่ลงรอยต่อกัน และเขาจะเป็นพันธมิตรกับผู้ที่สามารถทำให้เขาทำสิ่งนั้นได้โดยไม่สนเป้าหมายของคนพวกนั้น เขามักเป็นคนสร้างปัญหาให้กับอาณาจักรเซโดะ เขาได้ผูกมิตรกับดาร์เรียสและเป็นวีรบุรุษแห่งเคออสเรล์ม เขาเป็นศัตรูกับราชามังกรโอนากะ ฮาวิกได้พบกับคาบาลผู้ที่บาดเจ็บจากการพ่ายแพ้หัวหน้ากลุ่มมังกรแดงคือมาวาโด ฮาวิกได้รักษาคาบาลและรับปากจะช่วยคาบาลคืนความรุ่งเรืองให้มังกรดำ ฮาวิกทำแบบนี้เพื่อจะส่งเสริมความยุ่งเหยิงบนโลก ฮาวิก, คาบาล, คิรา, และโคบรา ได้ไปยังนอกพิภพ ที่นี่ฮาวิกได้เปิดเผยแผนการณ์การหลอกเหล่านักสู้ให้มาต่อสู้กับโอนากะ ซึ่งหากโอนากะแพ้หรืออ่อนแรง เขาจะสามารถกินหัวใจของโอนากะเพื่อทำให้ตัวเขาฟื้นจากการเป็นศพ
  78. โฮทารุ (อังกฤษ: Hotaru; ญี่ปุ่น: ホタル) ในภาษาญี่ปุ่นชื่อของเขาแปลว่าหิ่งห้อย เขาคือนายพลจากอาณาจักรเซโดะ และอุทิศตนเพื่อรักษากฎและคำสั่งโดยไม่เกี่ยงสิ่งตอบแทน จึงอาจเรียกว่าเป็นผู้คลั่งกฎ โฮทารุเป็นกลางเช่นเดียวกับฮาวิกผู้ที่ไม่ลงรอยกัน เพราะเขารักษากฎและรับคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายดี เป็นกลาง หรือฝ่ายร้าย โดยไม่สนใจเรื่องความตั้งใจของพวกเขา เมื่อชูจิงโกะต้องการความช่วยเหลือจากเขา โฮทารุได้ออกไปยังนอกพิภพเพื่อเผชิญหน้ากับกองทัพทาร์คาทันของเชาคาห์นที่กำลังล้อมกำแพงเมืองแห่งเหล่ยเชน ชูจิงโกะได้ตอบแทนให้กับเขา เมื่อชูจิงโกะไปพบเขาเรื่องงานอื่นอีกครั้ง โฮทารุได้กักขังชูจิงโกะไว้ ด้วยเหตุที่ชูจิงโกะละเมิดเคอร์ฟิว ชูจิงโกะแก่ขึ้นหลายปีในคุกของโฮทารุ และไดโรได้ช่วยชูจิงโกะแหกคุกออกมา โฮทารุคิดว่าชูจิงโกะได้สังหารผู้คุมสองรายและหนีไป เขาทั้งสองได้สู้กันและชูจิงโกะเป็นผู้ชนะ หลายปีต่อมากองทัพของโฮทารุอยู่ภายใต้คำสั่งของโอนากะ ด้วยเขาเชื่อว่านี่คือผู้ปกครองใหม่ที่จะนำกฎระเบียบมาสู่จักรวาล โฮทารุได้ช่วยโอนากะในการโจมตีและไล่ล่าผู้ที่ต่อต้านพวกเขา ในอดีตโฮทารุเคยเป็นผู้คุมในตอนที่ไดโรโดนกักขัง